NZD/USD ไต่ระดับสูงขึ้นเข้าใกล้ 0.6000 หลังการรายงานข้อมูลการค้าของจีน
- NZD/USD แข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่าการนำเข้าของจีนเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน
- RBNZ ระบุถึงความล่าช้าในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เป็นไปได้ ว่าจะไปจนถึงปี 2025
- อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่สูงขึ้นมีส่วนช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
NZD/USD ได้ขยายการปรับตัวขาขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยมีการซื้อขายที่บริเวณระดับ 0.6010 ในช่วงเซสชั่นเอเชียของวันพฤหัสบดี ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) แข็งค่าขึ้นหลังจากการเปิดเผยข้อมูลจากจีนในวันพฤหัสบดีเนื่องจากการมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ใกล้ชิดระหว่างนิวซีแลนด์และจีน
การนำเข้าของจีน (YoY) เพิ่มขึ้น 8.4% ในเดือนเมษายน สูงกว่าระดับการคาดการณ์ที่ 5.4% นอกจากนี้ การส่งออกยังขยายตัว 1.5% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% โดยตัวเลขล่าสุดเหล่านี้สร้างความประหลาดใจในเชิงบวกท่ามกลางความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจขึ้นภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ในรายงานดุลการค้าที่ใช้หน่วยสกุลเงิน USD ก็ได้เพิ่มขึ้นเป็น 72,350 ล้านดอลลาร์ จากตัวเลขของเมื่อเดือนมีนาคมที่ 58,550 ล้านดอลลาร์ โดยต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 76,700 ล้านดอลลาร์เล็กน้อย
ในนิวซีแลนด์ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ระบุถึงความล่าช้าในการดำเนินการที่อาจเกิดขึ้นไปเป็นการผ่อนคลายทางการเงิน ออกไปจนถึงปี 2025 โดยทาง RBNZ อ้างอิงถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสแรกไว้เป็นเหตุผลของจุดยืนนี้ การตัดสินใจดังกล่าวอาจช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD)
ในด้านของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ความคาดหวังของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น สิ่งนี้หนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งจำกัดการวิ่งขาขึ้นของคู่ NZD/USD เอาไว้
นอกจากนี้ คำพูดที่แสดงท่าทีเข้มงวด (hawkish) จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐยังช่วยทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีกด้วย ตามรายงานของรอยเตอร์ ซูซาน คอลลินส์ (Susan Collins) ประธานธนาคารกลางสหรัฐแห่งบอสตันเน้นย้ำเมื่อวันพุธถึงความสำคัญของช่วงเวลาแห่งการลดลงสู่สายกลางของระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ของทางธนาคารกลาง
นอกจากนี้ Neel Kashkari ประธานเฟดสาขามินนิอาโปลิสระบุเมื่อวันอังคารว่า ความคาดหวังโดยทั่วไปคืออัตราดอกเบี้ยจะไม่เปลี่ยนแปลงไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง แม้ว่าแนวโน้มของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะต่ำแต่ก็ไม่ได้ตัดโอกาสนั้นออกไปทั้งหมด
บทความที่เกี่ยวข้อง
