ปอนด์สเตอร์ลิงเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวในขณะที่ความเสี่ยงในตลาดแรงงานของสหราชอาณาจักรเพิ่มสูงขึ้น
- เงินปอนด์สเตอร์ลิงเคลื่อนไหวในกรอบไซด์เวย์รอบระดับ 1.3440 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางการหยุดชะงักของการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ
- การเก็งกำไรที่ BoE จะผ่อนคลายนโยบายยังคงมั่นคงท่ามกลางตลาดแรงงานสหรัฐที่เย็นลง
- ผลสำรวจ DMP ของ BoE สัญญาณชะลอตัวในตลาดแรงงานสหราชอาณาจักร
เงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) เคลื่อนไหวอย่างสงบเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ในวันศุกร์ ขณะที่มันอาจเผชิญกับแรงขายท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานในสหราชอาณาจักร (UK) ที่เพิ่มขึ้น
ผลสำรวจคณะกรรมการผู้มีอำนาจตัดสินใจ (DMP) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แสดงให้เห็นในวันพฤหัสบดีว่าความคาดหวังด้านการจ้างงานของบริษัทในปีข้างหน้ามีแนวโน้มคงที่ในช่วงสามเดือนถึงเดือนกันยายน นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาสถึงเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่บริษัทต่าง ๆ ไม่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มจำนวนพนักงาน
ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อ CPI ที่คาดหวังในอีก 12 เดือนข้างหน้าจากบริษัทในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.5% ในไตรมาสถึงเดือนกันยายน
สถานการณ์ของแนวโน้มเงินเฟ้อที่ติดขัดและตลาดงานที่ชะลอตัวจะบังคับให้เจ้าหน้าที่ BoE ต้องทำการปรับสมดุลอย่างละเอียดในที่ประชุมกำหนดนโยบายที่จะมาถึง
ในสัปดาห์นี้ รองผู้ว่าการ BoE ซาราห์ บรีเดน ได้แสดงความเห็นสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ย โดยอ้างถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจทำให้เงินเฟ้อลดลง ในทางตรงกันข้าม รองผู้ว่าการ BoE แคลร์ ลอมบาร์เดลลี และสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) แคทเธอรีน แมนน์ เตือนว่าช็อกเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาไม่ควรถูกมองว่าเป็นเพียงชั่วคราว
ในการประชุมกำหนดนโยบายในเดือนสิงหาคม BoE ระบุว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออาจสูงสุดที่ประมาณ 4% ในเดือนกันยายน
ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ วันนี้ ปอนด์สเตอร์ลิง แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับ เยนญี่ปุ่น
| USD | EUR | GBP | JPY | CAD | AUD | NZD | CHF | |
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| USD | -0.16% | -0.16% | 0.06% | -0.00% | -0.16% | -0.28% | -0.14% | |
| EUR | 0.16% | 0.06% | 0.22% | 0.17% | 0.01% | -0.12% | 0.02% | |
| GBP | 0.16% | -0.06% | 0.18% | 0.09% | -0.04% | -0.18% | -0.04% | |
| JPY | -0.06% | -0.22% | -0.18% | -0.06% | -0.22% | -0.35% | -0.23% | |
| CAD | 0.00% | -0.17% | -0.09% | 0.06% | -0.13% | -0.28% | -0.14% | |
| AUD | 0.16% | -0.01% | 0.04% | 0.22% | 0.13% | -0.14% | -0.00% | |
| NZD | 0.28% | 0.12% | 0.18% | 0.35% | 0.28% | 0.14% | 0.14% | |
| CHF | 0.14% | -0.02% | 0.04% | 0.23% | 0.14% | 0.00% | -0.14% |
แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ปอนด์สเตอร์ลิง จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง ดอลลาร์สหรัฐ เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง GBP (สกุลเงินหลัก)/USD (สกุลเงินรอง).
เงินปอนด์สเตอร์ลิงทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การเก็งว่าธนาคารกลางสหรัฐจะผ่อนคลายยังคงมั่นคง
- เงินปอนด์สเตอร์ลิงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ รอบระดับ 1.3440 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในช่วงเซสชั่นการซื้อขายยุโรปในวันศุกร์ คู่ GBP/USD รวมตัวกันเมื่อดอลลาร์สหรัฐ (USD) เคลื่อนไหวในแนวไซด์เวย์ ขณะที่นักลงทุนพยายามหาสัญญาณใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจท่ามกลางการปิดทำการของรัฐบาลบางส่วน
- ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งติดตามมูลค่าของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล เคลื่อนไหวอยู่รอบ ๆ 97.90 ในขณะที่เขียน
- การปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐบางส่วนส่งผลให้การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหยุดชะงัก รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ที่มีกำหนดจะประกาศในวันศุกร์ เนื่องจากหน่วยงานสถิติหลายแห่งถูกเรียกให้หยุดทำงานเนื่องจากการหยุดชะงักของการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล
- นักลงทุนรอการประกาศข้อมูลการจ้างงานอย่างเป็นทางการของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ขณะนี้มีโอกาส 87% ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกำหนดนโยบายที่เหลืออยู่ในปีนี้ ตามเครื่องมือ CME FedWatch
- ในขณะเดียวกัน ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการจ้างงาน ADP ของสหรัฐในเดือนกันยายนแสดงให้เห็นในวันพุธว่าภาคเอกชนมีการลดจำนวนแรงงานลง 32,000 คน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มพนักงานใหม่ 50,000 คนในช่วงเวลาดังกล่าว นอกจากนี้ รายงานยังเปิดเผยว่ามีพนักงาน 3,000 คนถูกเลิกจ้างในเดือนสิงหาคม ซึ่งตรงข้ามกับการเพิ่มที่คำนวณไว้ก่อนหน้านี้ที่ 54,000 คน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: เงินปอนด์สเตอร์ลิงพยายามกลับขึ้นเหนือ EMA 20 วัน
-1759477228395-1759477228406.png)
เงินปอนด์สเตอร์ลิงเคลื่อนไหวในวันศุกร์นี้ภายในกรอบการซื้อขายของวันก่อนรอบระดับ 1.3450 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ คู่ GBP/USD พยายามที่จะกลับขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 20 วัน ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่รอบระดับ 1.3476
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 วันดีดตัวขึ้นใกล้ 47.00 คู่จะยังคงเคลื่อนไหวในแนวไซด์เวย์หาก RSI ยังคงอยู่ในช่วง 40.00-60.00
มองไปข้างล่าง จุดต่ำสุดในวันที่ 1 สิงหาคมที่ 1.3140 จะทำหน้าที่เป็นโซนแนวรับหลัก ขณะที่ด้านบน จุดสูงสุดในวันที่ 17 กันยายนที่ 1.3726 จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านหลัก
US Dollar: คำถามที่พบบ่อย
ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นสกุลเงินที่ใช้อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา และเป็นสกุลเงินที่ใช้ 'โดยพฤตินัย' ของประเทศอื่น ๆ จำนวนมากที่มีการหมุนเวียนควบคู่ไปกับสกุลเงินท้องถิ่น เป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 88% ของมูลค่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั่วโลก หรือมีมูลค่าธุรกรรมเฉลี่ย 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวันตามข้อมูลของปี 2022 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สกุลเงิน USD เข้ามารับช่วงต่อตำแหน่งสกุลเงินสำรองของโลกจากสกุลเงินปอนด์ของอังกฤษที่เป็นในประวัติศาสตร์ใหญ่ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ถูกค้ำด้วยทองคำ จนกระทั่งเกิดข้อตกลง Bretton Woods ในปี 1971 เมื่อมาตรฐานการค้ำด้วยทองคำหมดไป
ปัจจัยเดียวที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐคือนโยบายทางการเงินซึ่งกำหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เฟดมีหน้าที่สองประการ: เพื่อให้บรรลุเสถียรภาพด้านราคา (ควบคุมอัตราเงินเฟ้อ) และส่งเสริมการจ้างงานเต็มรูปแบบ เครื่องมือหลักในการบรรลุเป้าหมายทั้งสองนี้คือการปรับอัตราดอกเบี้ย เมื่อราคาต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นเร็วเกินไปและอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด ทางเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะหนุนค่าเงิน USD แต่เมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2% หรืออัตราการว่างงานสูงเกินไป เฟดอาจเลือกปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อสกุลเงินดอลลาร์
ในสถานการณ์ที่รุนแรงมากจริง ๆ ทาง Federal Reserve ยังสามารถพิมพ์ดอลลาร์ออกมาเพิ่มเติมและออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ได้ การทำ QE เป็นกระบวนการที่เฟดเพิ่มการไหลเวียนของสินเชื่อในระบบการเงินที่ติดขัดอยู่อย่างมาก โดยเป็นมาตรการทางนโยบายที่ไม่ได้เป็นมาตรฐานซึ่งใช้เมื่อสินเชื่อหมดเนื่องจากธนาคารจะไม่ให้กู้ยืมระหว่างกัน (เพราะกลัวคู่สัญญาจะผิดนัดชำระหนี้) ก็เป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวไม่น่าจะบรรลุผลลัพล์ที่จำเป็น ถือเป็นเครื่องทางเลือกสุดท้ายของเฟดในการต่อสู้กับวิกฤติสินเชื่อที่เกิดขึ้นระหว่างวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ในปี 2008 โดยเกี่ยวข้องกับการที่เฟดพิมพ์เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นและใช้เงินเหล่านั้นเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสถาบันการเงินต่าง ๆ การทำ QE มักจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง
การกระชับเชิงปริมาณ (QT) เป็นกระบวนการย้อนกลับของการทำ QE โดยที่ Federal Reserve จะหยุดซื้อพันธบัตรจากสถาบันการเงินและไม่นำเงินต้นไปลงทุนใหม่จากพันธบัตรที่ถืออยู่เพื่อซื้อใหม่ ซึ่งมักจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
บทความแนะนำ
