รวยด้วยเหรียญ AI กับเทรนต์เอไอที่มาแรงที่สุดในปี 2023

อีกหนึ่งกระแสยอดฮิตติดเทรนในปัจจุบันที่ยังสามารถมองต่อยอดอนาคตไปได้อีกหลายอุตสาหกรรม ต้องไม่ปฏิเสธว่า ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ต้องเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน เพราะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่มุ่งเน้นการสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือระบบที่มีความสามารถในการคำนวณและทำงานเหมือนมนุษย์ในบางกระบวนการหรืองานที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน เมื่อมาผสานกับอีกหนึ่งเทรนโลกอย่างคริปโตเคอเรนซี่ ที่จะเข้ามาพลิกวิถีของการเงินเข้าไปด้วยกันแล้ว จึงน่าสนใจมากสำหรับ เหรียญ AI ที่กำลังจะกล่าวต่อไป

เหรียญ AI คือ เหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่มีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ เพื่อช่วยสร้างประสิทธิภาพด้านต่างๆ เช่น ด้านความปลอดภัย ด้านประสบการณ์ผู้ใช้งาน เป็นต้น และด้วยกรณีการใช้งานที่หลากหลายเหล่านี้ทำให้ AI เป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบกระจายอำนาจที่เน้นในเรื่องความโปร่งใส เมื่อผสานรวมเข้ากับ AI ความโปร่งใสของบล็อกเชนก็จะเกิดความเป็นอัตโนมัติ, ความปลอดภัย, และความสบายใจ พอนำมาประสานกันยิ่งทรงพลังและสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกหลากหลาย

1.Fetch (FET) โครงสร้างพื้นฐานที่เป็น AI

Fetch.ai เป็นระบบนิเวศ Machine-Learning ที่มุ่งเน้นในเรื่องการไม่กำหนดสิทธิ์การใช้งานและการกระจายอำนาจ พวกเขายังมุ่งมั่นที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้วย AI อัจฉริยะโดยมีโทเค็น FET เป็นแรงจูงใจในการใช้งานและเสนอบริการต่างๆ FET คือ เหรียญโทเค็นคริปโตแบบกระจายอำนาจ ซึ่งเป็นตัวแทนของซอร์ฟแวร์อิสระในการทำงานทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งข้อมูลและการให้บริการต่าง ๆ

คุณสมบัติ FET ได้ขึ้นมาครองบัลลังก์โทเค็น AI ที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุด แทนที่ OCEAN โทเค็นประจำ Ocean Protocol บล็อกเชนแบ่งปันข้อมูล โดยมีการใช้ AI เข้ามาช่วย มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 3 เท่านับจากเดือนพฤศจิกายนปี 2022

2.Numeraire (NMR) ระบบทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย AI

มีพื้นฐานอยู่บน Ethereum ซึ่งทำงานเป็นตัวแทนแบบกระจายอำนาจของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และแทนที่จะนำเสนอบริการ AI โดยตรง โปรเจกต์นี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อทำให้การคาดการณ์ทางการเงินแม่นยำมากยิ่งขึ้น และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่ทำงานที่ Numeraire นั้นจะได้รับแรงจูงใจในการใช้งานโทเค็น NMR

คุณสมบัติ NMR พร้อมด้วยโทเค็น Numeraire NMR ทำหน้าที่ 2 ประการ: ประการแรกคือช่วยปรับปรุงผลลัพท์ของการซื้อขายทางจากเงิน ประการที่ 2 คือช่วยอำนวยความสะดวกในการพัฒนา AI แบบกระจายอำนาจโดยเน้นไปที่อัลกอริธึมแมชชีนเลิร์นนิ่งและแบบจำลอง AI

3.Ocean Protocol (OCEAN) การแชร์ข้อมูลด้วย AI

เป็นโปรเจกต์การแชร์ข้อมูลโดยการใช้ AI เป็นหลัก ถึงแม้ว่า Big Data จะรับผิดชอบในการขับเคลื่อนโปรเจกต์ AI ในโลกแหง่วคามเป็นจริง แต่พวกเขาก็ยังมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยและการขาดความเป็นนิรนาม Ocean Protocol ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องดังกล่าวด้วยการนำการกระจายอำนาจมาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ

คุณสมบัติ OCEAN เป็นที่มีพื้นฐานอยู่บน Ethereum นอกจากนี้ OCEAN ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิม ยังช่วยสร้างรายได้ในแง่มุมของการควบคุมดูแล, ความปลอดภัย, และความเป็นส่วนตัว Ocean Protocol อาจจะช่วยให้สามารถปรับปรุงคุณภาพข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนและการแชร์แบบจำลองข้อมูลอย่างต่อเนื่อง

4.SingularityNET (AGIX) ตลาดซื้อขายที่ขับเคลื่อนด้วย AI

หากคุณเป็นผู้พัฒนา AI ที่สามารถสร้างอัลกอริทึม AI และแบบจำลอง AI ได้ SingularityNET อาจจะเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับคุณ บุคคลหรือบริษัทใดๆ ก็ตามที่พยายามสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้วย AI สามารถค้นหาแอปและระบบที่เหมาะสมผ่านระบบนิเวศนี้ได้ AGIX ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิม เป็นเหมือนแรงจูงใจให้กับผู้สร้างแบบจำลอง AI

คุณสมบัติ AGIX สนับสนุนการสร้างแอปพลิเคชั่นแบบกระจายศูนย์โดยมี AI เป็นแกนหลัก ดังนั้น หากคุณวางแผนที่จะสร้าง DApp ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่น AI แล้วละก็ SingularityNET อาจจะเหมาะสมเป็นอย่างมาก

5.DeepBrain Chain (DBC) แพลตฟอร์มการพัฒนาและการปรับใช้งาน AI

DeepBrain Chain เป็นระบบนิเวศเฉพาะทางของบล็อกเชนสำหรับการฝึกฝน, พัฒนา, และปรับใช้แบบจำลอง AI สำหรับบริการและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย การช่วยให้บริษัทและบุคคลต่างๆ เข้าถึงพลังความสามารถของ AI ได้ พร้อมกับช่วยให้ผู้ให้บริการยังคงอยู่ในระดับแถวหน้าเป็นสิ่งที่ DeepBrain Chain ตั้งเป้าเอาไว้

คุณสมบัติ DBC นำเสนอข้อมูลการฝึกฝนที่คุ้มค่าอย่างมาก รวมถึงช่วยในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ AI และยังนำเอาระบบนิเวศแบบกระจายอำนาจเข้ามาผสานรวมไว้ด้วย

6.Cortex (CTXC) ตลาดซื้อขายที่มีพื้นฐานจาก AI

Cortex เป็นโปรเจกต์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอัพโหลดแบบจำลอง AI ของตนไปยังเครือข่ายแบบกระจายได้ และในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มแบบโอเพ่นซอร์ส พวกเขาทำให้ AI สามารถเข้าถึงได้ง่าย และยังช่วยให้แบบจำลองและตรรกะสามารถผสานรวมกับสัญญาอัจฉริยะและ DApps ได้อย่างราบรื่น

คุณสมบัติ CTXC เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ AI ที่โดดเด่นด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ ด้วยการนำ AI เข้าสู่โลกแบบกระจายอำนาจและทำหน้าที่เป็นตลาดซื้อขายสำหรับความต้องการเฉพาะด้าน AI ที่หลากหลายของคุณ นอกจากนี้ โทเค็นดั้งเดิมอย่าง CTXC ยังทำหน้าที่สร้างแรงจูงใจในพื้นที่นี้

7.Velas (VLX) เหรียญที่มีศักยภาพทำกำไรบนบล็อคเชนที่ขับเคลื่อนด้วย AI

Velas เป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่สร้างบนระบบ Fork ของบล็อคเชน Solana สิ่งที่ทำให้ Velas ไม่เหมือนใครคือการรวม AI เข้ากับกลไกการตรวจสอบความถูกต้องสำหรับธุรกรรมบนบล็อกเชน

Velas ใช้สิ่งที่เรียกว่า Artificial Intuition Delegated Proof of Stake (AIDPoS) ทำให้สามารถทำธุรกรรมได้มากถึง 30,000 รายการต่อวินาทีโดยที่ยังมีความปลอดภัย ทำให้นี่เป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน

คุณสมบัติ VLX ทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับแอพพลิเคชั่น dApps และ Web 3.0 ที่ใช้ Ai ทำให้ VLX เป็นหนึ่งในเหรียญ Web 3.0 ที่ดีที่สุด และเหรียญ VLX นั้นทำหน้าที่เป็นสื่อกลางสำหรับการชำระเงินบนเครือข่าย Velas รวมถึงเหรียญที่ให้สิทธิ์ในการกำกับดูแลนอกจากนี้ยังสามารถ stake เหรียญ VLX ผ่านระบบตรวจสอบความถูกต้องของ AIDPoS ทำให้ผู้ถือเหรียญได้รับผลตอบแทนจากคริปโตเคอเรนซี่ของตนเอง

8.AiDoge (Ai) แพลตฟอร์มที่ใช้ AI สมัยใหม่และ Utility Tokenสำหรับเครดิตการสร้างมีม

คอนเทนต์ที่เข้าถึงได้และตลกเป็นสิ่งสำคัญในตลาดคริปโตที่มีการแข่งขันสูง AiDoge ได้เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมมีม ซึ่งมีความสำคัญเนื่องจากมีมเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ AiDoge ใช้เทคโนโลยี AI ที่ทันสมัยเพื่อสร้างมีมที่ทันเหตุการณ์ สนุกสนาน และมีคุณภาพสูง ซึ่งสะท้อนถึงความไม่หยุดนิ่งของอุตสาหกรรมคริปโต

คุณสมบัติ Ai เป็นรากฐานของระบบนิเวศ AiDoge โดยผู้ใช้สามารถสนับสนุนการเติบโตและอายุยืนของแพลตฟอร์มได้โดยการซื้อเครดิตสำหรับการสร้างมีมด้วยโทเค็นนี้ โทเค็น Ai สามารถใช้เพื่อซื้อเครดิตและ Stake สำหรับรางวัลรายวันและจูงใจให้สมาชิกชุมชนโหวตมีมและสร้างคอนเทนต์ที่เป็นไวรัลได้

9.Love Hate Inu (LHINU) เหรียญคริปโตมีม Vote-to-Earn ที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นทางเลือกของโปรเจกต์เหรียญ AI

แพลตฟอร์มที่ใช้ Blockchain แห่งแรกของโลกที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการเข้าร่วมแบบสำรวจความคิดเห็นโดยใช้กลไก vote-to-earn โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปฏิวัติการลงคะแนนออนไลน์และตลาดแบบสำรวจ เช่นเดียวกับที่ AI ขัดขวางวิธีการแบบเดิมๆ $LHINU ก็ปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยการรวมเทคโนโลยี Blockchain เข้ากับกลไก vote-to-earn โดย Love Hate Inu เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ Blockchain แห่งแรกของโลกที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการเข้าร่วมการสำรวจความคิดเห็นและส่วนย่อย

คุณสมบัติ LHINU เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ตัวแรกที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ stake โทเค็นและลงคะแนนเสียงเพื่อแลกกับรางวัลเมื่อใช้เทคโนโลยี Blockchain ผู้ใช้จะได้รับแรงจูงใจในการลงคะแนนผ่านกลไก ‘vote-to-earn’ วิธีการใหม่นี้จะเปลี่ยนวิธีการลงคะแนนเสียงในแบบสำรวจออนไลน์ในอนาคต

10.Launchpad (LPX) AI Tool offering Data analysis To Make Informed Investment Choices 

เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุน Web 3.0 ได้ Launchpad ขอแนะนำแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ แพลตฟอร์มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการลงทุนในโทเค็นยูทิลิตี้ NFT เกมplay-to-earn และ ICO ภายในโดเมน Web 3.0 Launchpad Quotient ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เป็นกรรมสิทธิ์ของแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI นำเสนอข้อมูลเชิงลึกและกลยุทธ์ขั้นสูงสำหรับการนำทางในตลาด crypto ให้ประสบความสำเร็จ 

คุณสมบัติ LPX ทำหน้าที่เป็นยูทิลิตี้หลักและโทเค็นการลงทุนสำหรับระบบนิเวศของ Launchpad เมื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นเศษส่วน LPX สามารถทำการ stake โทเค็นเพื่อรับสิทธิ์การเข้าถึงคุณสมบัติก่อนใครหรือใช้เพื่อหักล้างค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม

11.DeeLance (DLANCE) โปรเจกต์เหรียญ AI ที่น่าลงทุนที่จะมาปฏิวัติวงการงานฟรีแลนซ์

DeeLance เป็นเหรียญคริปโตมาใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวและกำลังจะพลิกโฉมโลกแห่งการจัดหางานและฟรีแลนซ์ โปรเจ็กต์นี้ยังมีแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการสนับสนุนลูกค้า ซึ่งจะทำให้โลกของการจ้างงานและฟรีแลนซ์มีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากขึ้น

คุณสมบัติ DeeLance จะทำงานจากระบบข้อเสนอแนะโดยทั้งสองฝ่ายสามารถดูคะแนนได้ ช่วยให้ผู้จ้างสามารถค้นหาผู้สมัครและฟรีแลนซ์คุณภาพสูงเพื่อหลีกเลี่ยงผู้ไม่หวังดี DeeLance จะตัดเรื่องของคนกลางออกไป

12.Ecoterra (ECOTERRA) โปรเจกต์เหรียญ AI รักษ์โลก พร้อมรางวัลสำหรับการรีไซเคิล

Ecoterra เป็นโปรเจกต์คริปโตที่มีศักยภาพสูงที่เพิ่งเปิดตัวซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลง่ายๆ จากการรีไซเคิล ด้วย Ecoterra ผู้ใช้จะนำสิ่งของที่ไม่ต้องการไปยังเครื่องรับซื้อบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล (RVM) ซึ่งมีจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก สแกนบาร์โค้ดของสินค้านั้นๆ และนำไปฝาก

คุณสมบัติ Ecoterra ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะกำหนดมูลค่าให้กับสินค้าและผู้ใช้จะได้รับรางวัลเป็นโทเค็น ECOTERRA ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘recycle-to-earn’นอกจากนี้ โทเค็นเหล่านั้นสามารถถือเป็นการลงทุน หรือจะ Stake เพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟ หรือใช้เพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน และกองทุนโปรเจกต์ต่างๆ เช่น การปลูกต้นไม้หรือการทำความสะอาดชายหาด

13.dKargo (DKA) เหรียญ AI เพื่อการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

dKargo เป็นเหรียญ AI ที่เปิดตัวในปี 2020 เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกหยุดชะงักจากการระบาดของโรคโควิด 19 แพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ AI ในการทำให้ระบบโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพและคุ้มทุนมากขึ้น

คุณสมบัติ DKA คือศูนย์กลางของแพลตฟอร์ม dKargo ซึ่งใช้เพื่อชำระค่าบริการโลจิสติกส์บนแพลตฟอร์ม และยังทำหน้าที่เป็นเหรียญที่ให้สิทธิ์ในการกำกับดูแลสำหรับระบบนิเวศ dKargo

ผู้ให้บริการจะต้อง Stake เหรียญ DKA เพื่อนำเสนอบริการโลจิสติกส์ของตนบนแพลตฟอร์ม dKargo

ถ้าจะให้อธิบายแบบยาวขึ้น ก็คือว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI นั้นปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยให้ในบางแง่มุมของชึวิตเรานั้นสามารถดำเนินไปอย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการตอบสนองที่รวดเร็วและมีความสามารถในการขยายตัวที่ดียิ่งขึ้นในเชิงกระบวนการ AI นั้นเป็นอะไรที่มากกว่าเพียงแค่ปัญญาประดิษฐ์ของ AI นั้นครอบคลุมทั้งในเรื่องเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับ งานศิลปะ, การสร้างเนื้อหา, การตรวจสอบยืนยันรูปแบบ, การตรวจจับการฉ้อโกง และอื่นๆ อีกมากมาย

ภายใต้เบื้องต้น "AI coin" อาจหมายถึงการสร้างเหรียญดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซี่ (cryptocurrency) ด้วยการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในกระบวนการการเหรียญของเหรียญดิจิทัลนั้น อาจมีหลายวิธีที่ AI สามารถนำมาใช้ในการสร้างเหรียญดิจิทัลได้

• การวิเคราะห์ข้อมูล: AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากตลาดหรือข้อมูลการเงินเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของราคาเหรียญดิจิทัลและตลาดที่เกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ข้อมูลนี้สามารถช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนในเหรียญดิจิทัลที่เป็นไปได้

  
  

• การเรียนรู้ของเครื่อง: AI สามารถใช้ในกระบวนการขุดเหรียญดิจิทัลโดยปรับปรุงประสิทธิภาพของการขุดและการจัดการทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในขั้นตอนนี้

  
  

• การพยากรณ์: AI สามารถใช้ในการพยากรณ์ตลาดเพื่อช่วยในการตัดสินใจการซื้อขายเหรียญดิจิทัลในเวลาที่เหมาะสม โดยอาศัยการทำนายแนวโน้มราคาและปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อตลาด

  
  

• การจัดการความเสี่ยง: AI สามารถใช้ในการจัดการความเสี่ยงในการลงทุนในเหรียญดิจิทัล โดยทำนายความเสี่ยงและให้คำแนะนำในการดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยง

อาจเกิดข้อจำกัดต่อไปนี้:

• ความน่าเชื่อถือ: การใช้ AI ในการสร้างเหรียญดิจิทัลอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายในด้านความน่าเชื่อถือและความน่าเป็นปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการโกงและการละเมิดความปลอดภัยของระบบ

  
  

• การกำหนดราคา: การใช้ AI ในการกำหนดราคาของเหรียญดิจิทัลอาจทำให้มีความผันผวนในราคาเหรียญมากขึ้น เนื่องจากตัวแบบ AI อาจไม่สามารถทำนายปัจจัยที่มีผลต่อตลาดที่แท้จริงได้อย่างแม่นยำเสมอไป

  
  

• ความเสี่ยงทางกฎหมาย: การสร้างเหรียญดิจิทัลโดยใช้ AI อาจเผชิญกับข้อจำกัดทางกฎหมายในหลายประเทศ เนื่องจากความไม่ชัดเจนในเรื่องการควบคุมและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล

  
  

• ความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส: ความโปร่งใสและการให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการสร้างเหรียญดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญในการรับความไว้วางใจจากนักลงทุนและผู้ใช้ การขาดความโปร่งใสอาจทำให้มีความเสี่ยงในเรื่องของการลวดลายทางกฎหมายและความเชื่อถือ

  
  

• การเสียเวลาและทรัพยากร: การสร้างเหรียญดิจิทัลโดยใช้เทคโนโลยี AI อาจเสียเวลาและทรัพยากรมากมายในการพัฒนาและทดสอบ การต้องปรับปรุงและประสานงานกับคนพัฒนาและนักวิจัย AI ยังเป็นภาระงานที่มีความซับซ้อน

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของโลกในทศวรรษหน้า โดยมีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีการดำเนินธุรกิจของโลก เร่งให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ และสร้างเครือข่ายทางสังคมและการเงินรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน ยิ่ง AI กำลังมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในโปรเจกต์คริปโตใหม่ๆ หลายโปรเจกต์  ซึ่งเหรียญ AI เป็นเหรียญประเภทค่อนข้างใหม่ของโปรเจกต์คริปโต ที่เน้นการรวมความสามารถของ AI และเทคโนโลยีบล็อคเชนเข้าด้วยกัน โปรเจกต์เหรียญ AI ที่ดีที่สุดนั้นครอบคลุมแนวทางที่หลากหลาย ตั้งแต่การรวมความสามารถของ AI เข้ากับกลไกการตรวจสอบบล็อคเชนโดยตรง ไปจนถึงการเปิดใช้ตลาดบริการ AI-as-a-service สำหรับนักพัฒนา dApp

นักลงทุนควรคว้าโอกาสนี้ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับเทคโนโลยี AI ในคริปโตเคอเรนซี่ เมื่อประเมินโปรเจกต์ AI ต่างๆ นักลงทุนจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าโปรเจกต์มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ และเหรียญที่เสนอนั้นเป็นเหรียญที่เหมาะแก่การลงทุนระยะยาว หรือไม่ สำหรับโปรเจกต์ AI โปรเจกต์ควรมีทีมพัฒนาที่แข็งแกร่ง ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงนักพัฒนาที่มีพื้นฐานด้าน AI และการจัดการบิ๊กดาต้า นอกจากนี้ ควรมีความต้องการโซลูชั่นที่ชัดเจนสำหรับโปรเจกต์ AI โดย Cortex ระบุว่าตลาดสำหรับอัลกอริธึม AI อาจมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต 

หลังจากได้รู้จักเหรียญของ AI ยอดนิยมกันแล้ว เรามาดูว่าถ้าจะซื้อขายเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ต่างๆ เราสามารถซื้อขายผ่านช่องทางใดได้บ้าง โดยช่องทางคลาสสิคทั่วไป จะเป็นผ่านทาง Exchange ชื่อดังอย่าง Binance / Bitkub โดยเก็บสะสมไว้ใน Metamask ในรูปของเหรียญ แต่ยังมีอีกรูปแบบหนึ่งคือ ลงทุนเทรดในรูปแบบของ CFD หรือสัญญาส่วนต่าง (Contract for Difference) ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันและเริ่มมีเหรียญใหม่ๆเข้ามาในกระดานเทรดของโบรกเกอร์เช่นกัน 

ข้อดีของการซื้อขายผ่านรูปแบบของ CFD คือ สามารถเทรดได้ทั้งสองฝั่งคือ BUY และ SELL ตามแต่สถานการณ์เพื่อสามารถทำกำไรได้ทั้งสองฝั่ง รวมถึงใช้ประโยชน์จากอัคราทดหรือ Leverage เพื่อใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่น้อยลง เพียงเริ่มที่ 50 USD ก็สามารถเทรดคริปโตชื่อดังต่างๆได้แล้ว 

🎉ลงทะเบียน Mitrade รับโบนัสในการเปิดบัญชี! แจกโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์!

ฟรี!! $50,000 จาก Mitrade  ฝึกฝนเทรดผ่าน บัญชีทดลอง แบบไร้ความเสี่ยง!!

บัญชีทดลอง>

เหรียญและโปรเจกต์ AI กำลังรวมความสามารถของ AI และบล็อคเชนเข้าด้วยกันเพื่อสร้างนวัตกรรมเพิ่มเติมในโลกคริปโต ในขณะที่โปรเจกต์เหรียญ AI เหล่านี้มีแนวโน้มที่ดี ซึ่งถือเป็นทางเลือกโปรเจกต์เหรียญ AI ที่มีศักยภาพที่สุดแห่งปี 2023 โดยรวมแล้ว เหรียญ AI ที่ดีที่สุดนั้นมีศักยภาพอยู่มากมาย และ AI มีแนวโน้มที่จะมีบทบาทในทิศทางในอนาคตของระบบนิเวศคริปโต และโปรเจกต์ที่เราแนะนำในวันนี้อาจมีความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบ AI บนบล็อกเชนไปสู่อนาคต ดังนั้นนักลงทุนควรจะศึกษาให้รอบคอบถึงวิธีการลงทุนและอย่าลืมที่จะคำนวณเรื่องความเสี่ยงในสินทรัพย์อย่างคริปโต ที่ค่อนข้างจะมีความผันผวนสูง