ข่าวคริปโต|ข่าวคริปโตวันนี้|สรุปข่าวคริปโตประจำวัน: CEO Telegram ถูกปล่อยตัว ขณะที่ OpenSea เผชิญ SEC ท่ามกลางฮ่องกงเปิดทางลงทุนรายย่อย และระบบ TON ล่ม เหตุจากเหรียญมีม

ไฮไลท์ของข่าวคริปโตวันนี้

• CEO Telegram ถูกปล่อยตัว หรือนี่จะเป็นการเปิดศึกสิทธิเสรีภาพในโลกดิจิทัล

• OpenSea เผชิญการตรวจสอบจาก SEC หรือว่า NFT จะถูกตั้งคำถามในฐานะหลักทรัพย์?

• ฮ่องกงเปิดทางลงทุนคริปโตสำหรับนักลงทุนรายย่อย ส่ง AVAX และ LINK เข้าตลาด

• เครือข่าย TON หยุดชะงัก ผลกระทบจากกระแสเหรียญมีม

CEO Telegram ถูกปล่อยตัว หรือนี่จะเป็นการเปิดศึกสิทธิเสรีภาพในโลกดิจิทัล

ก่อนหน้านี้ Pavel Durov ผู้ก่อตั้งและ CEO แอปพลิเคชันส่งข้อความ Telegram ถูกทางการฝรั่งเศสจับกุมและตั้งข้อหา ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวภายใต้การควบคุมตัวทางกฎหมาย เหตุการณ์นี้สร้างความสั่นสะเทือนในวงการเทคโนโลยีและก่อให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับขอบเขตความรับผิดชอบของผู้บริหารแพลตฟอร์มดิจิทัล

อัยการฝรั่งเศสได้ตั้งข้อหาอาญาต่อ Durov เกี่ยวกับบทบาทของเขาใน Telegram โดยเขาถูกห้ามออกนอกประเทศฝรั่งเศสและต้องวางเงินประกันจำนวน 5 ล้านยูโร ก่อนได้รับการปล่อยตัว

ข้อกล่าวหาที่ Durov เผชิญนั้นรวมถึงการสมรู้ร่วมคิดในกิจกรรมผิดกฎหมาย การปฏิเสธที่จะสื่อสารกับทางการ การฟอกเงิน การรวมกลุ่มอาชญากรรม และการให้บริการรหัสลับโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ยังมีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการช่วยเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กและอำนวยความสะดวกในกิจกรรมผิดกฎหมายผ่าน Telegram

บทวิเคราะห์: การจับกุม Durov สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างการปกป้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการป้องกันอาชญากรรมในยุคดิจิทัล การที่ Telegram มีผู้ใช้งานมากกว่า 900 ล้านคนต่อเดือนในปี 2024 ยิ่งทำให้กรณีนี้มีนัยสำคัญ เพราะอาจสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการพิจารณาความรับผิดชอบของผู้บริหารแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายอื่นๆ อย่าง Mark Zuckerberg หรือ Elon Musk

OpenSea เผชิญการตรวจสอบจาก SEC หรือว่า NFT จะถูกตั้งคำถามในฐานะหลักทรัพย์?

Devin Finzer CEO ของ OpenSea ตลาดซื้อขาย NFT ชั้นนำ เปิดเผยว่าบริษัทได้รับหนังสือแจ้ง Wells notice จาก SEC ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย

Finzer กล่าวว่า SEC กล่าวหาว่า OpenSea อำนวยความสะดวกในการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนบนแพลตฟอร์มของตน เขากล่าวว่า “นี่เป็นการก้าวเข้าสู่ดินแดนที่ไม่เคยมีใครบุกเบิกมาก่อน” และแสดงความกังวลว่าการกระทำของ SEC อาจส่งผลกระทบต่อนวัตกรรมในวงกว้าง โดยเฉพาะต่อศิลปินและนักสร้างสรรค์ออนไลน์นับแสนราย

แหล่งที่มา: Devin Finzer

บทวิเคราะห์: การดำเนินการของ SEC ต่อ OpenSea สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของหน่วยงานกำกับดูแลในการจัดการกับตลาดคริปโตเคอเรนซี และ NFT ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การตีความ NFT ว่าเป็นหลักทรัพย์อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออุตสาหกรรมนี้ และอาจนำไปสู่การถกเถียงทางกฎหมายและการกำกับดูแลที่ซับซ้อนในอนาคต

ฮ่องกงเปิดทางลงทุนคริปโตสำหรับนักลงทุนรายย่อย ส่ง AVAX และ LINK เข้าตลาด

นักลงทุนรายย่อยในฮ่องกงมีทางเลือกในการลงทุนคริปโตเคอเรนซีเพิ่มขึ้น หลังจากการอนุมัติให้มีการซื้อขายเหรียญ Avalanche (AVAX) และ Chainlink (LINK) บนแพลตฟอร์ม Hashkey ซึ่งเป็นหนึ่งในสองตลาดแลกเปลี่ยนที่ได้รับใบอนุญาตอย่างเต็มรูปแบบในเขตปกครองพิเศษนี้

Livio Weng CEO ของ Hashkey กล่าวว่าเหรียญเหล่านี้ถูกเลือกเพราะไม่มีข้อขัดแย้งทางกฎหมาย ต่างจากคริปโตเคอเรนซีอื่นๆ ที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่า โดย AVAX มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จัดอยู่ในอันดับที่ 13 ขณะที่ LINK อยู่ในอันดับที่ 16 ด้วยมูลค่าตลาด 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Weng ยังแสดงความเห็นว่าการเคลื่อนไหวนี้บ่งชี้ว่าฮ่องกงจะเร่งพัฒนาในด้าน Web3 โดยอาจมีแรงกระตุ้นสำคัญมาจากการที่อดีตประธานาธิบดี Trump แสดงเจตนารมณ์ที่จะผลักดัน Web3 ในสหรัฐอเมริกา

แหล่งที่มา: Hashkey Exchange

บทวิเคราะห์: การเปิดให้นักลงทุนรายย่อยในฮ่องกงสามารถซื้อขายคริปโตเคอเรนซีได้มากขึ้นนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลฮ่องกงในการสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงินและการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน การเคลื่อนไหวนี้อาจช่วยเสริมสร้างบทบาทของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย

เครือข่าย TON หยุดชะงัก ผลกระทบจากกระแสเหรียญมีม

เครือข่าย Telegram Open Network (TON) ประสบปัญหาการหยุดชะงักในการสร้างบล็อกใหม่เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่คืนวันที่ 27 สิงหาคม โดยแพลตฟอร์มชุมชน TON อย่าง Tonk Inu ได้แจ้งเตือนถึงปัญหาดังกล่าวผ่านโพสต์บน X โดยระบุว่าสาเหตุอาจมาจากกระแสความนิยมอย่างล้นหลามของเหรียญมีม DOGS ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม

DOGS สร้างปรากฏการณ์ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 10 ชั่วโมงแรกหลังเปิดตัว และมีมูลค่าตลาดสูงสุดถึง 891 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ Toncoin เหรียญหลักของเครือข่าย TON มีมูลค่าลดลง 1.5% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อยู่ที่ 5.30 ดอลลาร์สหรัฐ

แหล่งที่มา: Tonscan

บทวิเคราะห์: เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของเครือข่ายบล็อกเชน เมื่อต้องเผชิญกับปริมาณธุรกรรมที่สูงเกินคาดอย่างฉับพลัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดจากกระแสความนิยมของเหรียญมีม ซึ่งมักมีความผันผวนสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ใช้งาน

ดัชนี Fear and Greed Index :29

Source: https://alternative.me/crypto/