วิเคราะห์ราคาทองวันนี้|วิเคราะห์ทองคํา forex วันนี้|วิเคราะห์ XAUUSD วันนี้ - วันที่ 23 ก.ย. 2568

กราฟแสดงราคาทองคำวันนี้

เทรดทองเดี๋ยวนี้ >     

*ค่าคอม ฯ 0 และสเปรดต่ำ 0️⃣ 

*เงินเสมือนจริงฟรี $50,000 ดอลลาร์ 💰 

*โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์ 🎁

ราคาทองคำ XAUUSD พุ่งทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงเช้าของตลาดเอเชียวันนี้ โดยขึ้นไปทำสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งที่ระดับ 3,758 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงที่เขียนบทความนี้

การทะยานขึ้นครั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ทั้งความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก และอุปสงค์ต่อสินทรัพย์ปลอดภัยที่ยังคงแข็งแกร่ง ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังคุกรุ่นอยู่ทั่วโลก

ราคาทองคำทำสถิติใหม่ รับกระแสลดดอกเบี้ย Fed

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผลักดันให้ราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง คือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟดได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% (25 basis points) ซึ่งนับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี 2025

การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นหลังจากตัวเลขตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวและความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการจ้างงาน แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงก็ตาม

แต่สิ่งที่น่าจับตามองยิ่งกว่านั้น คือท่าทีของกรรมการเฟดบางส่วน เช่น Stephen Miran ที่โหวตสวนมติในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสนับสนุนให้ลดอัตราดอกเบี้ยลงแรงถึง 0.50% (50 basis points) 

เขาให้เหตุผลว่าเฟดควรดำเนินนโยบายการเงินเชิงรุกเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจในอนาคต ท่าทีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่เฟดอาจจะยังคงเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อไปอีกภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ทรงพลังอย่างยิ่งต่อทิศทางของราคาทองคำในระยะกลางถึงระยะยาว

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ก็ยังมีความเห็นว่ากระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับการลดดอกเบี้ยของเฟดในสัปดาห์ที่แล้ว และแนวโน้มที่จะมีการลดดอกเบี้ยอีก ล้วนเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำอย่างชัดเจน

เจาะลึกจิตวิทยาตลาด เมื่อความลังเลแปรเปลี่ยนเป็นแรงไล่ซื้อ

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา วาทกรรมที่ว่าตลาดทองคำอยู่ในภาวะ “ซื้อมากเกินไป” (Overbought) ถูกพูดถึงอย่างหนาหูในหมู่นักลงทุน แต่บัดนี้เสียงเตือนเหล่านั้นได้เงียบลงสนิท และถูกกลบด้วยเสียงของเม็ดเงินมหาศาลที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำอย่างบ้าคลั่ง

กองทุน ETF ซึ่งเคยเป็นผู้เล่นที่เคลื่อนไหวช้ากว่าตลาดได้ตื่นขึ้น และกระโจนเข้าสู่ตลาดอย่างเต็มตัว กลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ยืนยันถึงความแข็งแกร่งของตลาดกระทิงในรอบนี้

การไหลเข้าของเงินทุนสู่ ETF ทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเกือบ 1% ภายในวันเดียว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าความเชื่อมั่นในทองคำได้ขยายวงจากกลุ่มนักเก็งกำไรในตลาดฟิวเจอร์สไปสู่กลุ่มนักลงทุนสถาบันที่ต้องการความน่าเชื่อถือแล้ว

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตอนนี้ไม่ได้เป็นเพียงการไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ แต่เป็นการพุ่งทะยานในแนวตั้ง ทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง และเป็นการปรับตัวขึ้น 5 สัปดาห์ติดต่อกัน 

บรรยากาศในตลาดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากการสำรวจความเห็นในหมู่นักกลยุทธ์ในนิวยอร์กสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าทุกคนมีมุมมองเป็นบวกอย่างเต็มที่ ไม่มีใครพูดถึงการขายหรือการชอร์ตเซลล์ (Short Sell) อีกต่อไป

ทุกสายตากำลังจับจ้องไปที่เป้าหมายเดียวกันคือ 4,000 ดอลลาร์ ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ คือการย่อตัวของราคาเพียงเล็กน้อยซึ่งปกติจะเป็นโอกาสให้ฝั่งขายทำกำไร กลับถูกแรงซื้อเข้ามาพยุงไว้ทันที สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนที่เคยลังเล บัดนี้กำลังหาจุดเข้าซื้อให้ได้

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อตลาดกระทิงได้พัฒนาไปสู่ภาวะที่เรียกว่า “Stampede” หรือภาวะตื่นตระหนกไล่ซื้อ ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลังที่สุดในตลาดการเงิน

เป้าหมาย $4,000 อยู่ไม่ไกล? สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตา

ขณะที่ตลาดกำลังอยู่ในภาวะกระทิงเต็มตัว นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มมองไปยังเป้าหมายราคาที่สูงขึ้นไปอีก

James Turk ผู้ก่อตั้ง Goldmoney ได้คาดการณ์เป้าหมายระยะสั้นของราคาทองคำไว้ที่ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขณะที่ Peter Schiff นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อ Morgan Stanley ปรับกลยุทธ์การลงทุนในพอร์ตแบบคลาสสิก 60/40 (หุ้น 60% ตราสารหนี้ 40%) ให้รวมทองคำเข้าไปด้วย ซึ่งเขาตีความว่านี่คือสัญญาณ “ขาย” พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทางอ้อม

การเปลี่ยนแปลงมุมมองของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่เช่นนี้ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์สำคัญในยุคที่ความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ทางการเงินแบบดั้งเดิมกำลังสั่นคลอน

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องติดตามปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ Fed หลายคน ซึ่งรวมถึงประธาน Fed อย่าง Jerome Powell ในวันนี้

ความเห็นของเขาอาจให้เบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต หากมีสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ถึงการชะลอการลดดอกเบี้ย (Hawkish) ก็อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในระยะสั้นได้

แต่ตราบใดที่แนวโน้มหลักยังคงเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินและสภาวะความไม่แน่นอนทั่วโลกยังคงอยู่ การปรับฐานใดๆ ก็อาจเป็นเพียงการย่อตัวเพื่อสะสมกำลังก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นต่อไป

สถานการณ์ของราคาทองคำในกราฟราย 4 ชั่วโมงได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดกระทิงที่รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ การทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ $3,700 และ $3,725 ดอลลาร์ ซึ่งเคยเป็นเป้าหมายในวันก่อนหน้า ได้เกิดขึ้นอย่างง่ายดายและรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่อัดแน่นและไม่เปิดโอกาสให้เกิดการย่อตัวอย่างมีนัยสำคัญเลยแม้แต่น้อย

ปัจจุบันราคาได้พุ่งขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ $3,751 ดอลลาร์ ตอกย้ำว่าโมเมนตัมของตลาดได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฝั่งซื้อโดยสมบูรณ์ และได้เปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนจาก Buy on Dip ให้กลายเป็นความท้าทายในการ “ไล่ราคา” สำหรับผู้ที่ยังไม่มีของ

เมื่อพิจารณาจากอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค ภาพรวมยังคงเป็นบวกอย่างยิ่ง เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA 12 และ 26 ยังคงเรียงตัวกันเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่สมบูรณ์ และถ่างออกจากกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความแข็งแกร่งและอัตราเร่งของแนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุดในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า คือสัญญาณเตือนจากอินดิเคเตอร์ทั้งดัชนี RSI และ Stochastic RSI ได้พุ่งทะยานเข้าสู่เขตซื้อมากเกินไป (Overbought) อย่างเต็มตัวและค้างอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง

แม้ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง สัญญาณ Overbought อาจไม่ได้หมายถึงการกลับตัวเป็นขาลงในทันที แต่มันคือสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าตลาดกำลังร้อนแรงเกินไป และมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการปรับฐานหรือการย่อตัวเพื่อทำกำไรอย่างรุนแรงได้ทุกเมื่อ

สำหรับแนวโน้มและกลยุทธ์ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า มุมมองหลักยังคงเป็นการมองขึ้นอย่างชัดเจน แต่การไล่ซื้อ ณ ระดับราคาปัจจุบันมีความเสี่ยงสูง แนวรับสำคัญได้ถูกยกขึ้นมาอยู่ที่บริเวณ $3,725 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญที่เพิ่งถูกทำลายไป

การย่อตัวลงมาทดสอบบริเวณนี้และสามารถยืนอยู่ได้ จะเป็นสัญญาณที่ดีและเป็นจุดเข้าซื้อตามแนวโน้มที่ปลอดภัยกว่า โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่การทดสอบแนวต้านโซน $3,760 และเป้าหมายทางจิตวิทยาที่ $3,780 - $3,800 ดอลลาร์ตามลำดับ

ในทางกลับกัน หากแรงขายทำกำไรกดดันให้ราคาหลุดต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ $3,725 จะถือเป็นสัญญาณเตือนแรกของความอ่อนแอ และอาจนำไปสู่การปรับฐานที่ลึกขึ้นสู่แนวรับถัดไปที่ $3,700 ซึ่งจะทำให้ภาพของตลาดกระทิงที่ร้อนแรงนี้ต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว

แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,725

• $3,710

• $3,700

แนวต้านสำคัญที่ต้องจับตามอง

• $3,760

• $3,780

• $3,800