ประธานาธิบดีสหรัฐ (US) โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวใน Truth Social เมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขามี "การสนทนาทางโทรศัพท์ที่ดีมาก" กับประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ซึ่งพวกเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับความซับซ้อนของข้อตกลงการค้า
"การโทรใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง และส่งผลให้เกิดข้อสรุปที่เป็นบวกมากสำหรับทั้งสองประเทศ" ทรัมป์กล่าวเพิ่มเติม "จะไม่มีคำถามใด ๆ เกี่ยวกับความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์แร่หายากอีกต่อไป"
ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่าตัวแทนของเขา ได้แก่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ฮาวาร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และเจมีสัน กรีร์ ผู้แทนการค้า จะพบกับทีมจีนในเร็ว ๆ นี้สำหรับการเจรจารอบถัดไปในวันที่และสถานที่ที่ยังไม่ได้กำหนด
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในเซสชันหลังจากข่าวนี้ และล่าสุดลดลง 0.2% ในวันนี้ที่ 98.65 ขณะเดียวกัน ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite ยังคงรักษาผลกำไรในแต่ละวันอย่างพอประมาณ โดยเพิ่มขึ้น 0.25% และ 0.5% ตามลำดับ
โดยทั่วไปแล้ว สงครามการค้าเป็นความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศขึ้นไปเนื่องจากการปกป้องที่รุนแรงจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งหมายถึงการสร้างอุปสรรคทางการค้า เช่น ภาษีศุลกากร ซึ่งส่งผลให้เกิดอุปสรรคตอบโต้ ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าสูงขึ้น และทำให้ค่าครองชี
ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐอเมริกา (US) และจีนเริ่มต้นขึ้นในต้นปี 2018 เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตั้งกำแพงการค้าในจีน โดยอ้างถึงการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมและการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย จีนได้ดำเนินการตอบโต้โดยการกำหนดภาษีต่อสินค้าหลายรายการจากสหรัฐฯ เช่น รถยนต์และถั่วเหลือง ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นจนกระทั่งทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสหนึ่งระหว่างสหรัฐฯ-จีนในเดือนมกราคม 2020 ข้อตกลงนี้กำหนดให้มีการปฏิรูปโครงสร้างและการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ในระบอบเศรษฐกิจและการค้าของจีน และพยายามที่จะฟื้นฟูเสถียรภาพและความไว้วางใจระหว่างสองประเทศ การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้เบี่ยงเบนความสนใจจากความข
การกลับมาของโดนัลด์ ทรัมป์ สู่ทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ได้ก่อให้เกิดความตึงเครียดใหม่ระหว่างสองประเทศ ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งปี 2024 ทรัมป์ได้ให้สัญญาว่าจะเรียกเก็บภาษี 60% กับจีนเมื่อเขากลับเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเขาทำในวันที่ 20 มกราคม 2025 สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนมีเป้าหมายที่จะกลับมาดำเนินต่อจากจุดที่หยุดไว้ โดยมีนโยบายตอบโต้ที่ส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจโลกท่ามกลางการหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ส่งผลให้การใช้จ่ายลดลง โดยเฉพาะการลงทุน และส่งผลโดย