ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น กลับมาที่ระดับ $3,300 จากความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯ
- ราคาทองคำพุ่งขึ้นจากข่าวที่อิสราเอลพิจารณาโจมตีสถานีไฟฟ้านิวเคลียร์ของอิหร่าน
- ประธานาธิบดีทรัมป์มีปัญหากับสมาชิกพรรครีพับลิกันในการผลักดันแผนงบประมาณของเขาผ่านสภาคองเกรสสหรัฐ
- ทางเทคนิค ทองคำได้ทะลุออกจากช่วงแคบหลังจากพุ่งขึ้นเหนือ $3,300.
ทองคำ (XAU/USD) พุ่งสูงขึ้นในวันพุธไปที่ $3,308 ขณะเขียน โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางอาจกลับมาสูงขึ้นอีกครั้งและปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯ ในการซื้อขายช่วงท้ายของวันอังคาร CNN รายงานว่าอิสราเอลกำลังพิจารณาเป้าหมายสถานที่นิวเคลียร์ในอิหร่าน ขณะที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน สามารถเปลี่ยนใจนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮูได้ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เห็นความพยายามทางการทูตของเขาล้มเหลว ขณะที่ตลาดกำลังพิจารณาว่าทรัมป์ยังสามารถควบคุมเนทันยาฮูได้หรือไม่
ในสหรัฐฯ ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเผชิญกับอุปสรรคที่บ้าน ขณะที่รัฐบาลพยายามที่จะได้รับการสนับสนุนเพียงพอในการผ่านร่างกฎหมายภาษีในสภาคองเกรส ความไม่พอใจเกิดขึ้นกับทรัมป์ที่ Capitol Hill เมื่อพูดคุยกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เรียกร้องให้เพิ่มเพดานการหักภาษีของรัฐและท้องถิ่น (SALT) อย่างมีนัยสำคัญ
สรุปการเคลื่อนไหวของตลาดรายวัน: รอการยืนยันจากทรัมป์หรือเนทันยาฮู
- การสนับสนุนสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับทองคำได้รับการสนับสนุนจากรายงานของ CNN ที่ระบุว่าอิสราเอลอาจวางแผนโจมตีสถานีไฟฟ้านิวเคลียร์ของอิหร่าน ยังไม่ชัดเจนว่ามีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในการดำเนินการโจมตีหรือไม่ รายงานระบุ ตลาดจะต้องการมองหาการยืนยันจากผู้นำของสหรัฐฯ หรืออิสราเอล
- จากการโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย วาติกันได้เสนอให้เป็นเจ้าภาพจัดงานใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเจรจาสันติภาพยูเครน-รัสเซีย
- Financial Times รายงานว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ กดดันให้ไอร์แลนด์เหนืออนุมัติเหมืองทองคำที่เป็นของอเมริกาซึ่งอาจมีมูลค่าหลายพันล้านปอนด์ต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเตือนว่าการล่าช้าในโครงการนี้อาจทำให้เงินทุนต่างประเทศหลุดลอยไป
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของราคาทองคำ: สูญเสียการควบคุม
ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับตะวันออกกลางและการหยุดชะงักในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งการโจมตีต่อประธานาธิบดีทรัมป์และความน่าเชื่อถือของเขา และในระดับที่กว้างขึ้น ความน่าเชื่อถือของดอลลาร์สหรัฐและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทองคำได้รับประโยชน์จากความไม่แน่นอน และอาจพุ่งกลับขึ้นเหนือ $3,350 หากอิสราเอลยืนยันแผนของตน
ในด้านบวก แนวต้าน R1 ที่ $3,324 เป็นระดับแรกที่ต้องจับตามอง เนื่องจากสอดคล้องกับจุดสูงสุดของวันที่ 12 พฤษภาคม แนวต้าน R2 ที่ $3,354 ตามมาไม่ไกลจาก R1 และอาจเปิดประตูสู่การกลับไปที่ $3,431 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวันที่ 21 เมษายน และวันที่ 6 และ 7 พฤษภาคม
มีการสนับสนุนที่หนาแน่นเกิดขึ้นในด้านล่างในกรณีที่ราคาทองคำลดลง ในด้านล่าง จุดหมุนรายวันอยู่ที่ $3,263 ถัดไปมีระดับสำคัญทางเทคนิคที่ $3,245 และต่ำกว่านั้นคือ $3,231 ซึ่งเป็น S1 ในระหว่างวัน
XAU/USD: กราฟรายวัน
Gold FAQs
ทองคํามีบทบาทสําคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เพราะมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในฐานะที่เก็บมูลค่าและสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ปัจจุบันนอกเหนือจากความงดงามและการใช้งานสําหรับเครื่องประดับแล้ว ทองคำยังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าถือเป็นการลงทุนที่ดีในช่วงเวลาที่มีความวุ่นวาย ทองคํายังถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและเป็นการคานการอ่อนค่าของสกุลเงินเพราะไม่ได้พึ่งพาผู้ออกหรือรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง
ธนาคารกลางเป็นผู้ถือทองคํารายใหญ่ที่สุด ธนาคารกลางต่างๆ ซื้อทองคำตามเป้าหมายของพวกเขาเพื่อสนับสนุนสกุลเงินของตนเองในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่มีเสถียรภาพ ธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะกระจายทุนสํารองและซื้อทองคําเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในระบบเศรษฐกิจและสกุลเงิน การมีทองคําสํารองสูงสามารถเป็นแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ว่าประเทศของตนอยู่ห่างไกลจากคำว่าล้มละลาย ตามข้อมูลจากสภาทองคําโลก ธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มทองคํา 1,136 ตันมูลค่าประมาณ 70 พันล้านดอลลาร์ให้กับทุนสํารองในปี 2022 นับเป็นยอดซื้อรายปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติ ธนาคารกลางจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เช่นจีนอินเดียและตุรกีกําลังเพิ่มปริมาณสํารองทองคําอย่างรวดเร็ว
ทองคํามีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นทั้งสินทรัพย์สํารองหลักและสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ทองคํามีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทําให้นักลงทุนและธนาคารกลางสามารถกระจายสินทรัพย์ของพวกเขาในช่วงเวลาที่ปั่นป่วน ทองคํายังมีความสัมพันธ์ผกผันกับสินทรัพย์เสี่ยง ขาขึ้นในตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะทําให้ราคาทองคําอ่อนกำลังลงในขณะที่การเทขายในตลาดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้นมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนราคาทองคำ
ราคาทองคำสามารถเคลื่อนไหวได้เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวของภาวะถดถอยลงลึกสามารถทําให้ราคาทองคําเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัย ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน ทองคํามีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ในขณะเดียวกัน ต้นทุนเงินที่สูงขึ้นมักจะสร้างแรงกดดันให้กับทองคำ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าดอลลาร์สหรัฐ (USD) มีพฤติกรรมอย่างไร เนื่องจากสินทรัพย์มีราคาอ้างอิงกับดอลลาร์ (XAUUSD) ดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะควบคุมราคาทองคํา ในทางตรงกันข้าม ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงมีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาทองคําให้สูงขึ้น
บทความแนะนำ
