WTI ร่วงลงเข้าหาระดับ $81.00 เมื่ออิสราเอลและอิหร่านไม่มีท่าทีที่จะทำให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น
- ราคาน้ำมัน WTI อ่อนค่าลงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่ลดลง
- สภาผู้แทนสหรัฐฯ ผ่านแผนมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อภาคการผลิตน้ำมันของอิหร่าน ที่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของแผนช่วยเหลือต่างประเทศ
- ความเชื่อมั่นตลาดในท่าทีเข้มงวดต่อแผนนโยบายทางการเงินของเฟด สร้างแรงกดดันต่อแนวโน้มของน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมัน West Texas Intermediate (WTI) ซื้อขายที่ระดับ 81.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยแตะระดับต่ำสุดใหม่ประจำเดือนที่ 81.05 ดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี การลดลงของราคาน้ำมันดิบแน่นอนว่าเชื่อมโยงกับความกังวลทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ผ่อนคลายลงในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรายงานของรอยเตอร์ว่า อิสราเอลและอิหร่านไม่มีท่าทีที่จะทำให้ความเสี่ยงของความรุนแรงเพิ่มขึ้นหลังการโจมตีของอิสราเอลต่ออิหร่าน
ในขณะเดียวกัน การผ่านมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อภาคธุรกิจน้ำมันของอิหร่านโดยสภาผู้แทนราษฎรตามที่รายงานโดย Bloomberg เมื่อวันเสาร์ ก็อาจมีผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และจำกัดความสามารถในการส่งออกน้ำมันดิบ เหตุการณ์นี้อาจลดอุปทานน้ำมันทั่วโลกลงและส่งผลต่อแรงกดดันต่อราคาที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการคว่ำบาตรต่อราคาน้ำมันนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงขอบเขตของการคว่ำบาตรและการตอบสนองของบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันอื่น ๆ
การขยายการคว่ำบาตรระดับที่สองเพื่อให้ครอบคลุมธุรกรรมระหว่างสถาบันการเงินจีนและธนาคารอิหร่านที่ถูกคว่ำบาตรอยู่แล้วในการซื้อปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากน้ำมัน อาจส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันดิบได้อย่างแน่นอน
ในด้านอุปสงค์ แนวโน้มภาพรวมของตลาดน้ำมันดิบได้รับอิทธิพลจากความคาดหวังเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ โดยท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่อาจเลือกคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นต่อไปอีกนานขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่คงอยู่ อาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันได้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นมีแนวโน้มที่จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้น้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับประเทศที่ใช้สกุลเงินอื่น ซึ่งสามารถหนุนอุปสงค์ทั่วโลกและส่งผลให้ราคาลดลง
ถ้อยแถลงที่แสดงความเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ เช่น คำกล่าวของออสตัน กูลสบี (Austan Goolsbee) ประธานเฟดแห่งชิคาโก และราฟาเอล บอสติก (Raphael Bostic) ประธานเฟดแห่งแอตแลนตา ที่ได้ตอกย้ำความคาดหวังเกี่ยวกับจุดยืนนโยบายการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งอาจช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อไป และอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อราคาน้ำมันดิบ
บทความที่เกี่ยวข้อง
