ในตลาดลงทุนเอเชียวันศุกร์ GBPUSD ขยับสูงขึ้นมาใกล้ระดับ 1.2540 โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักรในไตรมาสแรกที่สูงกว่าคาด GDP (QoQ) เพิ่มขึ้น 0.6% สวนทางกับไตรมาสก่อนหน้าที่ลดลง 0.3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% นอกจากนี้ GDP (YoY) เพิ่มขึ้น 0.2% ดีดตัวขึ้นจากที่ลดลงก่อนหน้านี้ที่ 0.2%
อย่างไรก็ตาม เงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) เผชิญกับความท้าทายหลังจากการตัดสินใจของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% ที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี สํานักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวหลังการตัดสินใจว่า "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้ามีความเป็นไปได้" แต่เขาตั้งใจที่จะรอข้อดูข้อมูลมูลเงินเฟ้อ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และตลาดแรงงานก่อนตัดสินใจ สิ่งนี้เพิ่มโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต สร้างแรงกดดันต่อเงินปอนด์อังกฤษ และทําให้คู่ GBPUSD อ่อนค่าลง
ต่อมาในวันเดียวกัน สํานักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าจํานวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่สูงเกินความคาดหมาย จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่นับถึงวันที่ 3 พ.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 231,000 ราย สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 210,000 ราย และเพิ่มขึ้นจากการประกาศของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 209,000 ราย สิ่งนี้ชี้ให้เห็นโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเปลี่ยนแปลงกับแนวทางนโยบายการเงินที่เข้มงวดให้ลดน้อยลง ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และบั่นทอนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
ในวันศุกร์ นักลงทุนจะได้ทราบข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นจากมหาลัยมิชิแกน คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม ดัชนีนี้เป็นการสํารวจที่ประเมินความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมสามประเด็นหลัก ได้แก่ การเงินส่วนบุคคล สภาพธุรกิจ และเงื่อนไขการซื้อ