USDCAD เด้งตัวกลับขึ้นไปยัง 1.3700 หลังจากตัวเลขยอดค้าปลีกแคนาดาออกมาลดลง
- USDCAD ฟื้นตัวขึ้นไปวิ่งใกล้ 1.3700 เพราะยอดค้าปลีกของแคนาดาในเดือนมีนาคมหดตัว 0.1% อย่างน่าประหลาดใจ
- ข้อมูลยอดค้าปลีกที่อ่อนแอจะกระตุ้นให้ตลาดคาดหวังว่า BoC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนกําหนด
- ดอลลาร์สหรัฐดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากรายงาน PMI ของ S&P Global ในเดือนเมษายนอ่อนแอ
คู่ USDCAD ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง คู่สกุลเงินเพิ่มขึ้นเป็น 1.3700 โดยมีสาเหตุมาจากสำนักงานสถิติแคนาดาได้ประกาศข้อมูลยอดค้าปลีกในเดือนมีนาคมที่อ่อนแอเกินคาด ยอดขายที่ร้านค้าปลีกหดตัวในอัตราที่ชะลอลง 0.1% เทียบกับ 0.3% ในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.1%
ยอดค้าปลีกเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายของผู้บริโภคในระดับต้นๆ ที่บ่งบอกถึงอุปสงค์ในภาคครัวเรือน ยอดค้าปลีกที่ลดลงชี้ให้เห็นว่าอุปสงค์ในภาคครัวเรือนมีความอ่อนแอ ซึ่งบังคับให้เจ้าของโรงงานต้องลดราคาสินค้าและบริการที่หน้าประตูโรงงานของตน เหตุการณ์นี้ทำให้อัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคลดลง ซึ่งจะทําให้ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ปัจจุบันตลาดการเงินคาดการณ์ว่า BoC จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่การประชุมเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพยายามฟื้นตัวเหนือแนวต้านที่ 105.80 ดูเหมือนว่านักลงทุนจะไม่สนใจผลกระทบจากรายงาน PMI เบื้องต้นของ S&P Global ในเดือนเมษายนที่ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลที่ออกมานั้นลดลง
รายงาน S&P PMI แสดงให้เห็นว่า PMI ภาคการผลิตลดลงต่ำกว่าเกณฑ์ 50.0 ในขณะที่ PMI ภาคบริการลดลงอย่างรวดเร็วสู่ 50.9
ในอนาคต ดอลลาร์สหรัฐจะเคลื่อนไหวไปตามข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 1 และข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานสําหรับเดือนมีนาคม ซึ่งจะประกาศในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ข้อมูลเศรษฐกิจนี้จะส่งผลกระทบต่อการเก็งช่วงเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งขณะนี้คาดว่าจะมีขึ้นในการประชุมเดือนกันยายน
บทความที่เกี่ยวข้อง
