Super Wednesday ลุ้น Fed ลดดอกเบี้ยดันหุ้นโลก Bitcoin อาการออก ส่วนหุ้นไทยต้องระวังภาพลวง
- WTI ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ $60.00 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการมีอุปทานมากเกินไป

Insights - เหตุการณ์ทางการเงินที่สำคัญ 4 ประการของวันนี้:
1.วันชี้ชะตาดอกเบี้ยก่อนหยุดยาว Thanksgiving
วันนี้ นักลงทุนทั่วโลกต้องเกาะติดหน้าจอชนิดห้ามกระพริบตา เพราะนี่คือ Super Wednesday ที่สหรัฐฯ จะเทกระจาดประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญทั้งหมดออกมาก่อนวันหยุด Thanksgiving ในวันพรุ่งนี้
ไฮไลท์อยู่ที่ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 และดัชนี PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ใช้ตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ Fed ระดับสูงเริ่มส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแอและสนับสนุนการลดดอกเบี้ย ทำให้ตลาดเก็งกำไรกันไปแล้วกว่า 80% ว่าการประชุมเดือนธันวาคมนี้ เราจะได้เห็นการหั่นดอกเบี้ยลงอีก 0.25% แน่นอน หากตัวเลขคืนนี้ออกมาตามคาด ตลาดหุ้นโลกอาจได้ฉลองรับปีใหม่กันล่วงหน้า
2.Bitcoin ยังทรงๆ หลังเอเชียเก็บของ แต่อเมริกาเทขาย
ข้ามมาดูสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังผันผวนหนัก Bitcoin (BTC) ตอนนี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 87,000 - 89,000 ดอลลาร์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือพฤติกรรมราคาแบบ Time Zone Divergence หรือความขัดแย้งข้ามทวีป
ข้อมูลล่าสุดชี้ชัดว่าแรงซื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงตลาดเอเชียเปิดทำการ (Asian Session) ที่พยายามดันราคาขึ้น แต่พอตกดึกเข้าสู่ช่วงตลาดสหรัฐฯ (US Session) กลับมีแรงเทขายทำกำไรออกมาอย่างหนักคล้ายกับหุ้น Tech นี่คือสัญญาณว่า Bitcoin กำลังถูกมองเป็นสินทรัพย์เสี่ยง (Risk Asset) เต็มตัว ไม่ใช่หลุมหลบภัยอย่างที่เคยเชื่อกัน ใครเทรดสั้นต้องระวังแรงขายช่วงดึกให้ดี
3.ทองคำยืนเหนือ 4,130 ดอลลาร์ ตอกย้ำหลุมหลบภัยที่แท้จริง
ในขณะที่คริปโตผันผวน ทองคำ (XAUUSD) กลับยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งเหนือระดับ 4,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้จะเจอแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ แต่ด้วยความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และความคาดหวังเรื่องดอกเบี้ยขาลงปี 2026 ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าการย่อตัวคือจังหวะสะสม โดยมีเป้าหมายระยะกลางกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่แถว 4,380 ดอลลาร์
4.ตลาดหุ้นไทยสีเขียว แต่เนื้อในเจอวิกฤตขาดดุลการค้า
ปิดท้ายที่ตลาดหุ้นไทย (SET Index) เมื่อวานนี้ปิดบวกสวยงามที่ 1,267.56 จุด (+1.28%) โดยได้แรงหนุนจากพี่ใหญ่อย่าง DELTA ที่พุ่งขึ้นกว่า 4% แบกตลาดไว้
แต่ภายใต้ความเขียวขจีนี้มีสัญญาณอันตรายซ่อนอยู่ นั่นคือตัวเลขขาดดุลการค้าเดือนตุลาคม 2025 ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง กว่า 3,440 ล้านดอลลาร์
สาเหตุไม่ได้มาจากการส่งออกที่แย่ (โต 5.7%) แต่มาจากการนำเข้าที่พุ่งถึง 16.3% โดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่ทะลักเข้ามาเติบโตถึง 34%
นี่คือภาพสะท้อนว่า Supply Chain และตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคไทยกำลังถูกสินค้าทุนและสินค้าสำเร็จรูปจากจีนตีตลาดอย่างหนัก ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่เชิงโครงสร้างที่น่ากังวลกว่าความผันผวนของหุ้นรายวัน
*** ลงทุนมีความเสี่ยง ในการเทรด CFD ท่านไม่ได้เป็นเจ้าของของสินทรัพย์อ้างอิงใดๆ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกท่าน ซึ่งอาจส่งผลให้ท่านสูญเสียเงินลงทุนขั้นต้น เพื่อเข้าใจถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นท่านควรพิจารณา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง ก่อนที่จะใช้บริการของเรา
การลงทุนมีความเสี่ยง เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงเท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน



