Ctxc Coin คืออะไร? มาดูเหรียญคริปโต AI ที่น่าจับตามองนี้

ในตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็พูดถึง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจจากอุตสาหกรรมครบทุกสาขาทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่สกุลเงินดิจิทัลอย่าง ctxc coin ที่ได้นำเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้มาใช้กับเหรียญอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ctxc coin คืออะไรและนำมาใช้งานอะไรได้บ้างมาอ่านได้จากบทความนี้ได้เลย

ctxc coin (CTXC) คือระบบบล็อกเชน Cortex เป็นบล็อกเชนแบบโอเพ่นซอร์สแบบเพียร์ทูเพียร์และกระจายอำนาจที่รองรับโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะอัปโหลด จัดเก็บ และดำเนินการบนเครือข่ายแบบกระจาย Cortex บรรลุการทำให้ AIเป็นประชาธิปไตยด้วยการจัดหาแพลตฟอร์ม AI แบบโอเพ่นซอร์ส โดยที่โมเดล AI สามารถรวมเข้ากับสัญญาอัจฉริยะเพื่อสร้างแอปพลิเคชันกระจายอำนาจที่ปรับปรุงด้วย AI (DApps) ได้อย่างง่ายดาย ปัจจุบัน Cortex Network เป็นบล็อคเชนสาธารณะเพียงแห่งเดียวที่สามารถทำงานปัญญาประดิษฐ์บนบล็อกเชนได้

ทีมนักพัฒนา Cortex

Cortex ก่อตั้งโดย Ziqi Chen และ Weiyang Wang พร้อมกับทีมนักพัฒนาอีกหลายคน

Ziqi Chen เป็นผู้ก่อตั้ง waterhole.io ซึ่งเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นด้านการขุดบล็อคเชนบนโทรศัพท์มือถือ เขามีความเข้าใจและมีประสบการณ์โดยตรงในด้านการขุด การประมวลผล และกระเป๋าเงินดิจิทัล และมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอุปกรณ์การขุด อัลกอริธึมที่เป็นเอกฉันท์ และระบบนิเวศบล็อกเชนสาธารณะ

Weiyang Wang ผู้ชนะการประกวดคณิตศาสตร์ระดับชาติและผู้ชนะเลิศเหรียญเงินจากการแข่งขัน Kaggle Contest ความสนใจในการวิจัยของ Weiyang อยู่ที่การเรียนรู้ของเครื่องทางสถิติและทฤษฎีเกม ในฐานะผู้สมัคร FRM และ CFA ระดับ II ที่ได้รับการรับรอง เขาได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน Dorahack Hacking Marathon ปี 2017 โดยเป็นผู้นำทีมในการสร้างต้นแบบระบบ ABS (Asset-Backed Securities) โดยใช้ IBM Hyperledger

Cortex ยังได้รับคำแนะนำจากศาสตราจารย์ Whitfield Diffie หนึ่งในผู้บุกเบิกการเข้ารหัสคีย์สาธารณะ และเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัย Tsinghua, มหาวิทยาลัย Shanghai Jiaotong, มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย, เบิร์กลีย์ และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดอีกด้วย

ที่มา: facebook

จากภาพเป็นการประชุม Cryptic Labs ซึ่งนำโดยศาสตราจารย์ Whitfield Diffie เป็นผู้บุกเบิกด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเป็นที่รู้จักจากการผลงาน Public-Key Cryptology เมื่อปี 1975 ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Cortex Labs และ Dr. Whitfield Diffie จะทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางวิชาการของโครงการ Cortex ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการหารือเชิงลึก ความร่วมมือ และการวิจัยเกี่ยวกับการแก้ไขอุปสรรคทางเทคนิคที่สำคัญของโครงการ

อะไรคือสิ่งที่ทำให้ Cortex แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ มาหาคำตอบได้จากหัวข้อนี้ได้เลย

Cortex Virtual Machine (CVM)

CVM เข้ากันได้กับ Ethereum Virtual Machine (EVM) พร้อมการสนับสนุนเพิ่มเติมอินเทอร์เฟซ AI แบบออนไลน์ ซึ่งใช้ GPU แทน CPU เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาของโมเดล AI บน Cortex chain

เครื่องอนุมาน AI - Synapse

กลไกการอนุมานตามที่กำหนดซึ่งรับประกันผลการอนุมาน AI ที่เหมือนกันทุกประการในสภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบ heterogenetic ทำให้สามารถอนุมาน AI ภายในเครือข่ายที่กำหนดได้โดยไม่ต้องใช้โซลูชันนอกสายเครือข่าย

สัญญาอัจฉริยะ AI และ DApp แบบ AI

Cortex เพิ่มการสนับสนุนการเรียนรู้ของเครื่องให้กับสัญญาอัจฉริยะและ DApps เพื่อปรับให้เข้ากับกรณีการใช้งานจริง นักพัฒนาสามารถใช้ภาษายอดนิยมอย่าง Solidity และโมเดล AI ที่ใช้ได้ทั่วไปบนชั้นพื้นที่จัดเก็บข้อมูล Cortex เพื่อสร้าง DApps และสัญญาอัจฉริยะที่พัฒนาด้วย AI ได้

การวิจัย AI แบบกระจายอำนาจ

Cortex พยายามส่งเสริมระบบนิเวศแบบโอเพ่นซอร์ส โดยที่นักวิจัยและนักพัฒนา AI ได้รับแรงจูงใจในการแบ่งปันโมเดลของตนกับโลกมากขึ้นกว่าเดิม

เหรียญ AI เป็นเหรียญคริปโตที่เข้ามาเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายและผู้ใช้ รวมทั้งความยืนหยุ่นและความปลอดภัยในเครือข่าย เป็นเหรียญที่รองรับโปรเจ็คที่ทำงานด้วย AI เป็นหลัก สำหรับโทเค็นที่ขับเคลื่อนด้วย AI ยังให้สิทธิ์ในการกำกับดูแล อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมภายในระบบนิเวศ สามารถฝึก AI เพื่อตรวจจับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย วิเคราะห์แนวโน้มของตลาด ระบุโอกาสในการลงทุน และให้บริการแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่หลากหลาย ศักยภาพของ AI ในโลกของคริปโตนั้นยังมีอีกหลายอย่าง

สำหรับ Cortex เป็นโครงการบล็อกเชนที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสร้างแพลตฟอร์ม AI แบบกระจายอำนาจ เป้าหมายของ Cortex คือการจัดหาแพลตฟอร์มที่สามารถสร้าง ฝึกอบรม และปรับใช้โมเดล AI บนบล็อกเชนที่จะช่วยให้นักพัฒนามีส่วนร่วมและใช้ความสามารถของ AI ในลักษณะกระจายอำนาจได้

ย้อนกลับไปสักเล็กน้อยในปี 2009 ที่บิทคอยน์นำเสนอโมเดลบล็อกเชนที่สามารถรองรับระบบแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายอำนาจและน่าเชื่อถือ แต่ก็ยังพบว่าการออกแบบนี้ยังไม่ใช่ Turing Complete ที่ไม่สามารถทำงานในระบบที่ซับซ้อนได้ ต่อมาในปี 2013 อีเธอเรียมนำเสนอกลไกที่เรียกว่า Gas เพื่อรับมือกับปัญหาการปิดระบบของ Turing และปัญหาการโจมตีจากการปฏิเสธการให้บริการ แม้ว่าสิ่งนี้จะเป็นทางออกที่ดีในมุมมองทางเศรษฐกิจ แต่อีเธอเรียมสามารถทำได้เพียงการคำนวณและการจัดเก็บขนาดเล็กเท่านั้น

แต่สำหรับเครือข่าย Cortex ได้นำเสนอความสามารถที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น การจำแนก การทำนาย และการสร้างโมเดล AI ให้กับระบบบล็อกเชน ความก้าวหน้าครั้งใหญ่มาพร้อมกับความท้าทายที่มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ เพื่อแก้ปัญหาการประมวลผล การจัดเก็บ และภาระการทำงานสุทธิของแอปพลิเคชัน AI ในระบบบล็อกเชน โดยที่ Cortex ได้เสนอวิธีแก้ปัญหาหลายประการ ได้แก่

• ใช้เครื่องมือ Model Representation Tool (MRT) เพื่อแปลงโมเดล AI แบบดั้งเดิมให้เป็นโมเดลจุดคงที่ที่สามารถดำเนินการบนบล็อกเชน

• เสนอเครื่องเสมือน Cortex หรือ CVM เพื่อรับรู้การคำนวณ AI แบบภายในบล็อกเชน

• แนะนำระบบจัดเก็บไฟล์ TorrentFS P2P เพื่อแก้ปัญหาโมเดลและอายุการจัดเก็บข้อมูล

นอกจากนี้ บริการ AI ยังต้องการข้อมูลขนาดใหญ่และพลังการประมวลผลมหาศาล ซึ่งส่วนใหญ่มีเพียงบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำได้จึงทำให้เกิดตลาดผูกขาดขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการทลายกำแพง ระบบนิเวศของ Cortex จัดให้มีตลาดโมเดล AI แบบกระจายอำนาจ ซึ่งผู้ใช้สามารถแบ่งปันโมเดล AI และรับรางวัลได้ ทำให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับเทคโนโลยี AI ได้มากขึ้น เพราะบริษัทเชื่อว่าโครงการ Cortex จะนำเทคโนโลยี AI และประชาชนทั่วไปมารวมกัน

เมื่อเสร็จสิ้นการเปิดตัว Cortex 1.0 ในเดือนมิถุนายน 2019 เอกสารไวท์เปเปอร์ 1.0 ก็เห็นได้ว่ามีการตระหนักรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI บนบล็อกเชนนี้ และไม่ใช่บริษัทขนาดใหญ่บริษัทเดียวที่มีข้อมูลขนาดใหญ่และพลังการประมวลผลอีกต่อไป เพราะทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายที่ AI ผ่าน Cortex chain และเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงวิธีการใช้ข้อมูล ขณะนี้ผู้ดำเนินการพัฒนาสามารถเข้าถึงโมเดล AI เพื่อสร้างแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนมากขึ้นและได้รับประโยชน์จากโมเดลเหล่านั้น

จากนั้นด้วยการเปิดตัว Cortex 2.0 ทีมงาน Cortex Labs มีเป้าหมายที่จะสร้างความก้าวหน้าเพิ่มเติมในด้านสถาปัตยกรรมระบบ การใช้งานซอฟต์แวร์ การใช้ฮาร์ดแวร์ และระบบนิเวศของแอพ โดยหวังว่าจะบรรลุระบบนิเวศบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจพร้อมฟีเจอร์ที่มีการพัฒนาให้ดีขึ้นด้วยประสิทธิภาพที่ทรงพลังยิ่งขึ้น โปรโตคอลที่เสถียรยิ่งขึ้น และความสามารถแบบข้ามเชนเพื่อนำเทคโนโลยี AI มาสู่บล็อกเชนอื่น ๆ ในอนาคตได้

การพัฒนาของ Cortex ได้เรียกจุดสนใจให้กับนักพัฒนาทั่วโลกได้อย่างมากเพราะความสามารถในการแก้ไขปัญหาในสิ่งที่เครือข่ายอื่นทำไม่ได้ เช่น

AI Monopoly 

จนถึงปัจจุบันระบบ AI มีการใช้งานหลากหลายมากขึ้นแต่การมีบริษัทไม่กี่แห่งครองอุตสาหกรรม AI อาจไม่เกิดประโยชน์แก่คนหมู่มากเท่าไหร่นักเพราะโมเดล AI ที่ได้รับการฝึกอบรมโดยองค์กรขนาดใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตัวเองก่อนความเป็นส่วนตัวหรือความต้องการของลูกค้า ดังนั้นด้วยการออกแบบของ Cortex ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่โดยการกระจายอำนาจและอัลกอริธึม AI แบบโอเพ่นซอร์สเพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนสามารถเลือกจากผู้ให้บริการ AI หลายรายและปราศจากอันตรายขององค์กรขนาดใหญ่ ด้วย Cortex blockchain จึงสามารถทำให้ AI เป็นประชาธิปไตยได้โดยการสร้างแบบจำลอง tokenomic ที่จูงใจนักพัฒนา AI ให้แบ่งปันโมเดลของตนกับโลกเพราะทุกครั้งที่มีการเรียกโมเดล เจ้าของโมเดลนั้นจะได้รับเงินเป็นรางวัลตอบแทน

สิ่งนี้จะกระตุ้นให้นักพัฒนาจำนวนมากขึ้นทำงานด้วยโมเดล AI ทางออนไลน์ที่ดีขึ้น และเมื่อมีการส่งแบบจำลองในห่วงโซ่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สัญญาอัจฉริยะและนักพัฒนา DApp จะสามารถเข้าถึงเครื่องมือ AI ที่ใช้งานได้มากขึ้นเพื่อรวมในการพัฒนาจึงเป็นการสร้างวงจรนิเวศใหม่และดีต่ออุตสาหกรรม AI เป็นอย่างมาก

จำกัดความสามารถของสัญญาอัจฉริยะ

สัญญาอัจฉริยะเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่ดีที่สุดในศตวรรษนี้ ด้วยแนวคิดที่สัญญาสามารถแปลเป็นโค้ดได้ จากนั้นจะกระจายไปยังหลายโหนดเพื่อตรวจสอบในบล็อกเชน อย่างไรก็ตาม สัญญาอัจฉริยะในปัจจุบันไม่ได้ “ฉลาด” จริง ๆ เพราะเหมือนกับสัญญาดิจิทัลมากกว่า หากไม่ปรับปรุงขีดความสามารถของสัญญาอัจฉริยะ เป็นการยากที่จะนำแอปพลิเคชันกระจายอำนาจในโลกแห่งความเป็นจริงไปใช้งานบนบล็อกเชน สัญญาอัจฉริยะที่แท้จริงควรมีฟังก์ชัน AI ดังนั้น ด้วยสัญญาอัจฉริยะ AI ของ Cortex นักพัฒนาจึงสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น แอปพลิเคชัน KYC ที่ใช้โมเดลการจดจำใบหน้าเพื่อให้กระบวนการที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และป้องกันการฉ้อโกงได้

ข้อจำกัดการดำเนินการ AI แบบ off-chain

ปัจจุบันสัญญาอัจฉริยะและเครื่องเสมือนถูกดำเนินการบน CPU อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความซับซ้อนของอัลกอริธึม AI จึงไม่มีบล็อกเชนสาธารณะที่มีพลังในการคำนวณเพียงพอที่จะดำเนินการอัลกอริธึม AI อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหมายความว่าโซลูชันปัจจุบันจำกัดบริษัทให้ดำเนินการ AI แบบ off-chain หรือบน side-chain จากนั้นนำผลลัพธ์กลับมาที่ mainchain ซึ่งยังคงก่อให้เกิดปัญหา black-box บล็อกเชนสาธารณะ แต่สำหรับ Cortex สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยใช้ GPU/FPGA บนโหนดเต็มรูปแบบเพื่อรองรับการอนุมาน AI Cortex Virtual Machine (CVM) จะใช้ GPU/FPGA เพื่อดำเนินการสัญญาอัจฉริยะของ AI ซึ่งจะสร้างเส้นทางการตรวจสอบที่โปร่งใสเพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์

Cortex blockchain ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการสร้าง การฝึกอบรม และการปรับใช้โมเดล AI ในลักษณะที่มีการกระจายอำนาจและปลอดภัยโดยมีฟีเจอร์ที่สำคัญบางประการดังต่อไปนี้

การสร้างโมเดล AI แบบกระจายอำนาจ: Cortex ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและฝึกโมเดล AI ได้โดยตรงบนบล็อกเชน โดยช่วยให้นักวิจัยและนักพัฒนา AI สามารถสนับสนุนแบบจำลองของตนไปยังเครือข่ายและรับรางวัลสำหรับการมีส่วนร่วมนี้ได้

• มาร์เก็ตเพลสด้วย AI: Cortex จัดให้มีตลาดที่สามารถซื้อและขายโมเดล AI ที่ได้รับการฝึกอบรมได้ จุดมุ่งหมายของตลาดมาร์เก็ตเพลสก็เพื่อให้นักพัฒนาสามารถรับรางวัลหรือผลตอบแทนจากงานของตนเองได้

  
  

• รางวัลจูงใจ: เครือข่าย Cortex ใช้กลไกต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเครือข่าย ซึ่งรวมถึงรางวัลโทเค็นสำหรับผู้ที่สนับสนุนทรัพยากรด้านการคำนวณสำหรับการฝึกอบรมโมเดล AI และการตรวจสอบความถูกต้อง

  
  

• กลไกฉันทามติ: Cortex ใช้กลไกฉันทามติ Proof of Work (PoW) ในตอนแรก แต่วางแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้ Delegated Proof of Stake (DPoS) เวอร์ชันที่กำหนดเองเพื่อความสามารถในการขยายขนาดและประสิทธิภาพ

  
  

• สัญญาอัจฉริยะ: เช่นเดียวกับบล็อกเชนอื่น ๆ Cortex รองรับสัญญาอัจฉริยะ สัญญาเหล่านี้เป็นสัญญาที่ดำเนินารด้วยตนเองโดยมีเงื่อนไขของข้อตกลงที่เขียนลงในโค้ดโดยตรง

  
  

• องค์กรอัตโนมัติแบบกระจายศูนย์  (DAOs): Cortex มุ่งหวังที่จะใช้ DAOs เพื่อให้ชุมชนสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางและการพัฒนาของโครงการได้

สำหรับการคาดการณ์ปี 2026 หาก Cortex ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบสกุลเงินดิจิทัล ราคาเหรียญ CTXC อาจทรงตัวต่อไปอีกห้าปีข้างหน้า

Cortex เป็นเครือข่าย AI ที่สร้างขึ้นบนด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบ AI ได้อย่างสะดวกสบายและยังมีรางวัลตอบแทนให้กับนักพัฒนาที่เข้ามามีส่วนร่วม ดังนั้น แพลตฟอร์มนี้จึงเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี AI ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่ง

กำกับดูแลโดย ASIC/CIMA/FSC

ค่าคอมมิชชั่น 0 สเปรดต่ำ    

โบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100 ดอลลาร์  

ฟรีเงินเสมือนจริง $50,000 ดอลล่าร์

เทรดเดี๋ยวนี้

ตราสารอนุพันธ์อาจจะทำให้คุณขาดทุนทั้งหมด โปรดอ่านพิจรนา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา นำเสนอ โดย Mitrade Holding Ltd.SIB License 1612446

ตราสารอนุพันธ์อาจจะทำให้คุณขาดทุนทั้งหมด โปรดอ่านพิจรนา เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา นำเสนอ โดย Mitrade Holding Ltd.SIB License 1612446