อัตราเงินเฟ้อ PPI ประจำปีของสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 2.4% ในเดือนเมษายน เทียบคาดการณ์ที่ 2.5%

แหล่งที่มา Fxstreet
  • อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตในสหรัฐฯ ยังคงอ่อนตัวลงในเดือนเมษายน
  • ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอยู่ในแดนลบใต้ระดับ 101.00

เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเมษายน ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สําหรับประเมินอุปสงค์ขั้นสุดท้ายในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.4% การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจาก PPI เพิ่มขึ้น 2.7% ที่บันทึกไว้ในเดือนมีนาคม และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.5%

ดัชนี PPI หลักประจำปีเพิ่มขึ้น 3.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน ลดลงจาก 4% ในเดือนมีนาคม ในแง่รายเดือน PPI และ PPI หลักลดลง 0.5% และ 0.4% ตามลำดับ

ปฏิกิริยาตลาด

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอยู่ภายใต้แรงกดดันขาลงเล็กน้อยในช่วงเซสชั่นอเมริกา และล่าสุดพบว่าลดลง 0.22% เคลื่อนไหวในวันนี้ที่ 100.80

Inflation FAQs

อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่ใช้อ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง

แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกให้ไหลเข้าประเทศ เพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรจากการฝากเงินของพวกเขา

ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจึงไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้บ่งบอกถึงผลลัพธ์ในอนาคต
placeholder
EUR/USD ยืนอยู่ใกล้ 1.1200 ในการซื้อขายเอเชียก่อนข้อมูล GDP ที่สำคัญของยูโรโซนEURUSD ยังคงแข็งแกร่งอยู่รอบๆ 1.1200 ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพฤหัสบดี ฟื้นตัวจากการขาดทุนในแต่ละวัน ขณะที่ยูโร (EUR) ได้รับแรงหนุนก่อนการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นของยูโรโซนสำหรับไตรมาส 1 ปี 2025 ซึ่งจะประกาศในภายหลังของวันนั้น
ผู้เขียน  FXStreet
11 ชั่วโมงที่แล้ว
EURUSD ยังคงแข็งแกร่งอยู่รอบๆ 1.1200 ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพฤหัสบดี ฟื้นตัวจากการขาดทุนในแต่ละวัน ขณะที่ยูโร (EUR) ได้รับแรงหนุนก่อนการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นของยูโรโซนสำหรับไตรมาส 1 ปี 2025 ซึ่งจะประกาศในภายหลังของวันนั้น
placeholder
การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ลดลงมากกว่า 2% จากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่สูง อยู่ใกล้ระดับ $32.00ราคาโลหะเงินลดลง 2% ในวันพุธท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนดูเหมือนมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เขียนบทความนี้ XAG/USD ซื้อขายอยู่ที่ 32.20 ดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเริ่มต้นเซสชันเอเชีย
ผู้เขียน  FXStreet
16 ชั่วโมงที่แล้ว
ราคาโลหะเงินลดลง 2% ในวันพุธท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนดูเหมือนมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เขียนบทความนี้ XAG/USD ซื้อขายอยู่ที่ 32.20 ดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเริ่มต้นเซสชันเอเชีย
placeholder
การคาดการณ์ราคาของ WTI: ขาขึ้นมีความได้เปรียบเมื่ออยู่เหนือ $62.00/200-period SMA บนกราฟ H4ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะซบเซาตลอดช่วงเซสชั่นยุโรปในวันพุธ และในขณะนี้ ดูเหมือนว่าจะหยุดสตรีคการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 4 วันที่ระดับกลาง $63.00 หรือสูงกว่าระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่แตะเมื่อวันก่อน
ผู้เขียน  FXStreet
เมื่อวาน 09: 40
ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะซบเซาตลอดช่วงเซสชั่นยุโรปในวันพุธ และในขณะนี้ ดูเหมือนว่าจะหยุดสตรีคการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 4 วันที่ระดับกลาง $63.00 หรือสูงกว่าระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ที่แตะเมื่อวันก่อน
placeholder
USDCAD อ่อนค่าลงต่ำกว่า 1.3950 เนื่องจากเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายนในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพุธ คู่ USDCAD ปรับตัวลดลงใกล้ 1.3925 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขยับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา (CAD) หลังจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด
ผู้เขียน  FXStreet
เมื่อวาน 02: 39
ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันพุธ คู่ USDCAD ปรับตัวลดลงใกล้ 1.3925 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขยับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา (CAD) หลังจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด
placeholder
WTI ปรับตัวขึ้นต่อเหนือ $63.00 หลังจากความตึงเครียดทางการค้าลดลงน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 63.25 ดอลลาร์ในช่วงเวลาการซื้อขายของเอเชียในวันพุธ ราคาของ WTI ขยายตัวขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลงระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งกระตุ้นให้เทรดเดอร์ลดความน่าจะเป็นของภาวะถดถอย
ผู้เขียน  FXStreet
เมื่อวาน 01: 38
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 63.25 ดอลลาร์ในช่วงเวลาการซื้อขายของเอเชียในวันพุธ ราคาของ WTI ขยายตัวขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ลดลงระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งกระตุ้นให้เทรดเดอร์ลดความน่าจะเป็นของภาวะถดถอย
goTop
quote