WTI ปรับตัวลดลงต่อไปวิ่งใกล้ $82.00 เพราะน้ำมันดิบคงคลังสูงขึ้น และความกังวลด้านอุปสงค์น้ำมันลดลง
- ราคาน้ำมันเร่งการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย
- แนวโน้มการคงดอกเบี้ยสูงขึ้นนานขึ้นกําลังเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความต้องการน้ำมันที่ลดลง
- ความกลัวเหล่านี้ได้หักล้างผลกระทบจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
ราคาน้ำมันกําลังปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในวันพุธ เพื่อหักล้างขาขึ้นบางส่วนที่เกิดขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบ WTI ล่วงหน้าร่วงลงในวันพุธหลังจากช่วงเวลาแห่งความลังเลที่ถูกตอกย้ำด้วยโอกาสที่เฟดจะคงดอกเบี้ยสูงขึ้นนานขึ้น และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้
รายงาน EIA รายสัปดาห์เปิดเผยว่าในสัปดาห์ที่นับถึงวันที่ 12 เมษายน ปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.735 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.65 ล้านบาร์เรล และจาก 5,841 ล้านบาร์เรลที่รายงานในสัปดาห์ก่อนหน้า
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ได้ออกเตือนว่าธนาคารอาจยังมีงานที่ต้องทําเพื่อทําให้อัตราเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมาย 2% ความคิดเห็นเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับที่เข้มงวดเป็นเวลานาน ซึ่งคาดว่าจะกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมัน
เหตุการณ์นี้ได้หักล้างปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น และจากการรายงานข่าวที่สหรัฐฯ ขู่ว่าจะสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันจากเวเนซุเอลาอีกครั้งหากประธานาธิบดีมาดูโรไม่สามารถปฏิบัติตามคํามั่นสัญญาของเขาในการเลือกตั้งที่ยุติธรรมในปีนี้
แนวโน้มในภาพรวมยังคงเป็นขาขึ้นแม้ว่าปฏิกิริยาขาลงในวันนี้จะแนะว่าอาจมีการปรับฐานที่ลึกลงกว่านี้ การปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 82.85 ดอลลาร์อย่างเด็ดขาดทําให้พื้นที่ 80.50 ดอลลาร์อยู่ในความเป็นไปได้ของหมี ขาขึ้นน่าจะต้องกลับมายืนเหนือระดับ $84.90 เพื่อให้ตลาดเปลี่ยนโฟกัสกลับไปที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันที่ $87.60
บทความที่เกี่ยวข้อง
