ฟอเร็กซ์รายวัน: ดอลลาร์ดิ้นรนพยายามจะรีบาวด์ เมื่อตลาดกำลังประเมินการประกาศของเฟด
นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนในวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม:
ดอลลาร์สหรัฐ (USD) อ่อนตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่สำคัญอื่น ๆ ในช่วงปลายเซสชั่นอเมริกาในวันพุธ เนื่องจากภาษาในการแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความคิดเห็นของประธานเจอโรม พาวเวลล์ กลับกลายเป็นว่าไม่ได้มีท่าที hawkish อย่างที่กลัวกัน ด้านรายงานการปรับแก้ขั้นสุดท้ายสําหรับ PMI ภาคการผลิตของ HCOB สําหรับเยอรมนีและยูโรโซนจะถูกนําเสนอในรายงานตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปในช่วงท้ายของวันนี้ จะมีการจับตาดูข้อมูลจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรายสัปดาห์ และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยสําหรับไตรมาสแรกจากสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.25%-5.5% ตามคาด ในการแถลงนโยบาย เฟดยอมรับว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมไปสู่เป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% เกี่ยวกับกลยุทธ์การกระชับเชิงปริมาณ โดยเฟดตั้งข้อสังเกตว่าพวกเขาจะชะลอการลดลงของงบดุลโดยการลดเพดานการลดการแลกพันธบัตรเป็น 25,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากที่ 60,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ซึ่งในการแถลงข่าวหลังการประชุม ประธานพาวเวลล์หลีกเลี่ยงการบอกใบ้ถึงช่วงเวลาของการเปลี่ยนทิศทางนโยบาย แต่กล่าวว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่การปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเป็นการปรับขึ้น "หากเราจะปรับขึ้นดอกเบี้ย เราต้องเห็นปัจจัยยืนยันว่านโยบายทางการเงินของเราไม่ได้เข้มงวดเพียงพอ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น"
หลังจากผันผวนอย่างรุนแรงในระหว่างการแถลงข่าว ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ดิ่งลงทันทีและอ่อนตัวลงมากกว่า 0.6% ในรายวันในวันพุธ ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีดัชนีดอลลาร์ขยับขึ้นลงในกรอบแคบเหนือระดับ 105.50 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงอยู่ในแดนลบเหนือระดับ 4.6% เล็กน้อยและดัชนีหุ้นสหรัฐซื้อขายสูงขึ้นเล็กน้อย
ราคาดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้
ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ที่ระบุไว้ในสัปดาห์นี้ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าที่สุดเมื่อเทียบกับเงินเยนของญี่ปุ่น
| ดอลลาร์ | ยูโร | ปอนด์ | CAD | AUD | JPY | NZD | CHF | |
| ดอลลาร์ | -0.11% | -0.17% | 0.45% | 0.05% | -1.82% | 0.17% | -0.21% | |
| ยูโร | 0.11% | -0.03% | 0.53% | 0.16% | -1.70% | 0.26% | -0.07% | |
| ปอนด์ | 0.18% | 0.05% | 0.59% | 0.20% | -1.63% | 0.32% | -0.04% | |
| CAD | -0.45% | -0.54% | -0.60% | -0.40% | -2.23% | -0.29% | -0.65% | |
| AUD | -0.05% | -0.14% | -0.20% | 0.40% | -1.83% | 0.11% | -0.23% | |
| JPY | 1.79% | 1.66% | 1.60% | 2.19% | 1.83% | 1.92% | 1.55% | |
| NZD | -0.19% | -0.26% | -0.32% | 0.27% | -0.12% | -1.96% | -0.34% | |
| CHF | 0.19% | 0.08% | 0.03% | 0.62% | 0.22% | -1.61% | 0.34% |
แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักซึ่งกันและกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้ายในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกยูโรจากคอลัมน์ด้านซ้ายและเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยังเงินเยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงเป็น EUR (ฐาน)/JPY (ราคาเสนอ)
ในช่วงท้ายของเซสชั่นอเมริกาในวันพุธ USD/JPY ปรับตัวลดลงเกือบ 400 pip ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมง แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการแต่ผู้เข้าร่วมตลาดก็มองว่าการเคลื่อนไหวนั้นเป็นผลมาจากการแทรกแซงอื่น ๆ โดยหลังจากร่วงลงไปจนถึงระดับ 153.00 คู่เงิน USD/JPY ฟื้นตัวในระหว่างเซสชั่นการซื้อขายในเอเชียและซื้อขายล่าสุดที่บริเวณระดับ 155.50
EUR/USD สามารถดีดตัวขึ้นได้อย่างเด็ดขาดในวันพุธ และฟื้นตัวจากการอ่อนตัวลงทั้งหมดเมื่อวันอังคาร ราคาคู่นี้ทรงตัวเหนือระดับ 1.0700 เล็กน้อยในช่วงเช้าตรู่ของเซสชั่นยุโรปในวันพฤหัสบดี
GBP/USD ใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันนี้ใต้ระดับ 1.2500 ในวันพุธ แต่ปิดกราฟได้เหนือระดับนั้น โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของ USD โดยคู่สกุลเงินดังกล่าวอยู่ในกรอบการพักฐานที่ประมาณ 1.2520 ในเซสชั่นยุโรป
ราคาทองคําได้รับอานิสงส์จากแรงขายคู่ USD และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ถอยลงในวันพุธ และทรงตัวได้เหนือระดับ $2,300 โดยคู่ XAU/USD พยายามดิ้นรนเพื่อรักษาโมเมนตัมขาขึ้นเอาไว้อย่างยากลำบาก และซื้อขายในแดนลบต่ำกว่าระดับ $2,310 เล็กน้อยในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี
FED: คําถามที่พบบ่อย
ธนาคารกลางสหรัฐทําอะไร และส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างไร?
นโยบายการเงินในสหรัฐฯ ถูกกําหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เฟดมีข้อบังคับสองประการ: เพื่อให้เกิดเสถียรภาพด้านราคาและส่งเสริมการจ้างงานเต็มรูปแบบ เครื่องมือหลักในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้คือการปรับอัตราดอกเบี้ย
เมื่อราคาเพิ่มขึ้นเร็วเกินไปและอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด พวกเขาก็จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทําให้ต้นทุนการกู้ยืมทั่วทั้งเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าขึ้น เนื่องจากทําให้สหรัฐฯ เป็นสถานที่ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสําหรับนักลงทุนต่างชาติในการพักเงิน
เมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2% หรืออัตราการว่างงานสูงเกินไปเฟดอาจลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นให้เกิดการกู้ยืม ซึ่งจะกลายเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับเงินดอลลาร์
เฟดจัดการประชุมนโยบายการเงินบ่อยแค่ไหน?
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จัดการประชุมนโยบาย 8 ครั้งต่อปี โดยคณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะประเมินภาวะเศรษฐกิจและตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน
FOMC เข้าร่วมโดยมีเจ้าหน้าที่เฟดสิบสองคน - สมาชิกเจ็ดคนเป็นของคณะกรรมการ ผู้ว่าการประธานธนาคารกลางแห่งนิวยอร์ก และประธานธนาคารกลางระดับภูมิภาคสี่ในสิบเอ็ดคนที่เหลือซึ่งดํารงตําแหน่งหนึ่งปีแบบหมุนเวียนกันไป
การผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) คืออะไรและส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างไร?
ในสถานการณ์ที่รุนแรง ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจใช้นโยบายที่ชื่อว่าการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing (QE)) QE เป็นกระบวนการที่เฟดเพิ่มการไหลของเงินเครดิตในระบบการเงินที่ติดขัดอย่างมาก
เป็นมาตรการนโยบายที่ไม่ได้มาตรฐานที่ใช้ในช่วงวิกฤตหรือเมื่ออัตราเงินเฟ้อต่ำมาก QE เป็นอาวุธทางเลือกของเฟดในช่วงวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ในปี 2008 QE เกี่ยวข้องกับการที่เฟดพิมพ์เงินดอลลาร์มากขึ้นและใช้พวกเขาเพื่อซื้อพันธบัตรคุณภาพสูงจากสถาบันการเงิน QE มักจะทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง
การคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT) คืออะไรและส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐอย่างไร?
การคุมเข้มเชิงปริมาณ (Quantitative Tightening (QT)) เป็นกระบวนการย้อนกลับของ QE ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะหยุดซื้อพันธบัตรจากสถาบันการเงินและไม่นําเงินต้นคืนจากพันธบัตรที่ครบกําหนดเพื่อซื้อพันธบัตรใหม่ โดยปกติจะเป็นข่าวดีต่อมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐ
บทความที่เกี่ยวข้อง
