USD/JPY พบแนวรับที่บริเวณระดับ 155.00 หลังจากดิ่งลงจากการอาจถูกแทรกแซงของญี่ปุ่น
- USD/JPY พบแนวรับใกล้บริเวณระดับ 155.00 หลังจากร่วงลงจาก 160.00 จากการอาจถูกแทรกแซงจากญี่ปุ่น
- นักลงทุนคาดหวังว่าการแทรกแซงของญี่ปุ่นจะให้การหนุนค่าเงินเยนญี่ปุ่นเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
- เงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่าเฟดจะคงให้อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น
USD/JPY พบแนวรับชั่วคราวใกล้ระดับ 155.00 ในช่วงเช้าของวันจันทร์ในเซสชั่นอเมริกา คู่สกุลเงินดังกล่าวพบการเทขายจนกราฟวิ่งแนวดิ่งลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 160.00 ซึ่งผู้เข้าร่วมตลาดประเมินว่าอาจเป็นผลมาจากการแทรกแซงโดยหน่วยงานของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม นักการทูตด้านสกุลเงินระดับสูงของญี่ปุ่น นาย Masato Kanda ไม่ได้ยืนยันการทำการแทรกแซงตลาด FX ใด ๆ ในสุนทรพจน์ของเขาในระหว่างเซสชั่นยุโรป คุณ Kanda กล่าวว่า "การเก็งกำไร การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และความผิดปกติของตลาด FX มีผลกระทบที่ไม่ดีต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้" โดยคุณ Kanda ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงระดับที่เหมาะสมเมื่อถูกถามถึงขอบเขตที่อาจเป็นไปได้ที่ฝ่ายบริหารอาจเข้ามาแทรกแซง หากเจ้าหน้าฝั่งรัฐบาลยังไม่เริ่มดำเนินการ
แนวโน้มการแทรกแซงตลาด FX ของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับที่สูงเนื่องจากค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงอย่างมาก เงินเยนของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับต่ำ แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BoJ) จะปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้น หลังจากยังคงรักษาจุดยืนนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายอย่างมากมานานกว่าหนึ่งทศวรรษ โดยแม้ว่า BoJ ได้ขยับอัตราดอกเบี้ยไปในทางบวกแล้ว แต่นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับขอบเขตที่จำกัดของการปรับนโยบายให้เข้มงวดขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเติบโตของค่าจ้าง
BoJ กำลังเคลื่อนตัวไปสู่การปรับนโยบายให้กลับสู่ระดับปกติ แต่ความคาดหวังที่มั่นคงเกี่ยวกับความแตกต่างทางนโยบายที่ยืดเยื้อออกไประหว่าง BoJ และ Federal Reserve (เฟด) กำลังทำให้สกุลเงินเยนของญี่ปุ่นพบฐานราคาที่มั่นคงได้ยาก
ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนในช่วงก่อนการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดซึ่งจะประกาศในวันพุธ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งติดตามมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินหลักหกสกุล ฟื้นตัวหลังจากพบแรงซื้อที่ใกล้ 105.45 โดยเฟดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเป็นการประชุมครั้งที่ 6 ติดต่อกัน และจะคงข้อเหตุผลโต้แย้งในการคงอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะได้รับความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่อัตราที่ต้องการที่ 2% อย่างยั่งยืน
บทความที่เกี่ยวข้อง
