ทั่วโลกจับตานโยบายการเงินสวนทาง สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-ไทย ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงรอระเบิดฟอร์มช่วงโค้งสุดท้ายของปี ส่วนทองคำ All time high นำไปก่อนแล้ว

Insights - เหตุการณ์ทางการเงินที่สำคัญ 4 ประการของวันนี้:

1.ญี่ปุ่นทุบโต๊ะขึ้นดอกเบี้ย ส่วนไทยขอสวนกระแส

เปิดประเด็นด้วยภาพรวมนโยบายการเงินโลกที่กำลังฉีกตำราเศรษฐศาสตร์เดิมๆ ทั่วโลกกำลังแบ่งขั้วอย่างชัดเจน

ในขณะที่ฝั่งสหรัฐฯ อย่างFed เลือกที่จะ “Play Safe” ในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ด้วยการคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.50-3.75% ต่อปี โดยนักลงทุนต่างเทน้ำหนักไปที่ปี 2026 ว่าเราอาจจะได้เห็นการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง

แต่ความพีคอยู่ที่เพื่อนบ้านเอเชียอย่างญี่ปุ่นที่ Ueda ผู้ว่าการ BOJ ตัดสินใจสวนกระแสโลก ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแตะ 0.75% ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 30 ปี พร้อมส่งสัญญาณสู้กับค่าครองชีพเต็มสูบ 

ตัดกลับมาที่บ้านเรา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กลับเลือกเดินเกมผ่อนคลายด้วยมติเอกฉันท์ ลดดอกเบี้ยลงเหลือ 1.25% เพื่อประคองเศรษฐกิจตามวิถีภูมิภาค สะท้อนให้เห็นว่าปีหน้าจะเป็นปีที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายผันผวนอย่างหนักแน่นอน

2.Bitcoin ยังนิ่ง ส่วน Ethereum ฉายเดี่ยวรับวัน Option หมดอายุ

ข้ามมาดูสินทรัพย์ดิจิทัลที่ทำเอาเทรดเดอร์นั่งไม่ติดเก้าอี้ Bitcoin ดูเหมือนจะหมดแรงวิ่งชั่วคราว แกว่งตัวแคบๆ อยู่ที่โซน 87,000–89,000 ดอลลาร์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญเพราะราคานี้ไปเกาะอยู่กับจุด “Max Pain” ที่ 88,000 ดอลลาร์พอดิบพอดี ทำให้การขยับตัวยากลำบาก

แต่พระเอกของวันกลับเป็น Ethereum ที่ดีดตัวกลับมายืนเหนือ 3,000 ดอลลาร์ได้สำเร็จ บวกไปกว่า 3.37%

อย่างไรก็ตาม ความน่ากังวลอยู่ที่ตลาด Options มูลค่ามหาศาลรวมกว่า 3.16 พันล้านดอลลาร์ที่กำลังจะหมดอายุ ซึ่งสัญญาเหล่านี้กระจุกตัวอยู่ในโซนราคาสำคัญ ทำให้นักลงทุนรายใหญ่อาจเลือกที่จะชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูทิศทางที่ชัดเจนหลังคลื่นลมสงบ

3.ทองคำ All time high แต่ Bond Yield ยังคอยขัดขา

ตลาดทองคำโลกกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ “รักพี่เสียดายน้อง” แม้ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ จะดิ่งลงเหลือ 52.9 ซึ่งปกติจะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีให้ทองคำพุ่ง แต่กลับโดนสกัดดาวรุ่งด้วย Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯ ที่ดีดตัวกลับไปแตะ 4.14% ทำให้ราคาทองคำโลกยังคงผันผวนอยู่แม้จะพุ่งขึ้นทำ All time high ในช่วงเช้าวันนี้

แต่ถ้ามองเกมยาว Goldman Sachs ได้ออกมาฟันธงตัวเลขที่น่าตื่นเต้นว่าทองคำมีสิทธิ์ทะยานไปถึง 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในเดือนธันวาคม 2026

4.หุ้นไทยลุ้น Year-End Rally โค้งสุดท้าย เฟ้นหาหุ้นท่องเที่ยวตัวท็อปรับ High Season

ปิดท้ายที่ตลาดหุ้น ซึ่งฝั่งสหรัฐฯ ดูเหมือนซานต้าจะเริ่มทำงานแล้ว ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq กอดคอกันปิดบวกรับความหวัง Santa Claus Rally แม้จะมีความกังวลเรื่องฟองสบู่ AI มารบกวนบ้าง

แต่สำหรับตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 1,252.19 จุด ท่ามกลางแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาส นักวิเคราะห์มองว่านี่คือจังหวะ “Buy the Dip” หรือช้อนซื้อของถูกเพื่อลุ้นแรงส่งท้ายปี ที่อาจดันดัชนีกลับไปทดสอบ 1,300 จุดได้ โดยเฉพาะแรงหนุนจากกองทุนลดหย่อนภาษี ธีมการลงทุนที่โดดเด่นที่สุดในนาทีนี้ต้องยกให้ “กลุ่มท่องเที่ยว” รับไฮซีซั่นไตรมาส 4 โดยเฉพาะหุ้นอย่าง CENTEL และ ERW ที่ราคาห้องพักแข็งแกร่งและน่าจับตามองเป็นพิเศษ