ข่าวคริปโต|ข่าวคริปโตวันนี้|สรุปข่าวคริปโตประจำวัน: สหรัฐฯ ไฟเขียว Staking ด้าน UNI พุ่งแรง ท่ามกลางวาฬใหญ่ช้อน ETH สวนทางเทรดเดอร์ดังที่ All in เพื่อ Short

ไฮไลท์ของข่าวคริปโตวันนี้

• สหรัฐฯ เปิดทางให้ ETF เก็บกำไร จาก Staking ได้แล้ว

• UNI พุ่ง 38%! หลังเสนอเผาเหรียญครั้งใหญ่ แถมเปิดระบบ Fee หวังดึงดูดนักลงทุน

• BitMine สวนกระแส ช้อน ETH เพิ่ม 34% ตอนตลาดย่อ

• เทรดเดอร์ดัง James Wynn ล้างพอร์ต 12 ครั้งใน 12 ชม. แต่ยังไม่ยอมแพ้ All-in' Short BTC

สหรัฐฯ เปิดทางให้ ETF เก็บกำไร จาก Staking ได้แล้ว

การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่จากฝั่งสหรัฐฯ เมื่อ IRS (กรมสรรพากร) และกระทรวงการคลัง ได้เปิดโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ ETP อย่างพวกกองทุน Crypto ETF หรือ Trust สามารถเข้าร่วมการ Staking สินทรัพย์ดิจิทัล และแบ่งปันผลตอบแทน (Staking Rewards) ให้กับนักลงทุนรายย่อยได้แล้ว 

Scott Bessent เลขาธิการกระทรวงการคลัง ยืนยันโดยมีเงื่อนไขว่ากองทุนนั้นต้องเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติ ถือแค่เงินสดและสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทเดียว รวมถึงต้องมีผู้ดูแล (Custodian) ที่น่าเชื่อถือ และต้องจัดการความเสี่ยงให้นักลงทุน

ด้าน Bill Hughes จาก Consensys วิเคราะห์ว่านี่คือการปลดล็อกความชัดเจนด้านกฎหมายและภาษีที่รอคอยมานาน ซึ่งจะช่วยขจัดอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้จัดการกองทุนไม่กล้าเพิ่ม Staking Yield เข้าไปในผลิตภัณฑ์ของพวกเขา

ที่มา: Scott Bessent

บทวิเคราะห์: การปลดล็อก Staking ให้ ETF หมายถึงเม็ดเงินสถาบันจะไหลเข้าง่ายขึ้น เพราะกองทุนสามารถเสนอผลตอบแทนที่น่าดึงดูดกว่าเดิมได้ ไม่ใช่แค่ถือเหรียญไว้เฉยๆ และรายย่อยที่ซื้อ ETF ก็จะได้ผลตอบแทนส่วนนี้ไปด้วย วิน-วินทั้งระบบแน่นอน

UNI พุ่ง 38%! หลังเสนอเผาเหรียญครั้งใหญ่ แถมเปิดระบบ Fee หวังดึงดูดนักลงทุน

ตลาดเดือดกันต่อกับเหรียญ UNI ที่ราคาพุ่งกระฉูดกว่า 38% ทันทีที่ Uniswap Foundation และ Uniswap Labs เปิดตัวข้อเสนอ “UNIfication” เพื่อยกเครื่องเศรษฐศาสตร์ของเหรียญครั้งใหญ่ 

แผนนี้คือการเปิดใช้งานกลไกเก็บค่าธรรมเนียมระดับโปรโตคอล แล้วนำรายได้ส่วนนี้ไปเผา(Burn) เหรียญ UNI ทิ้ง เพื่อลด Supply ในตลาด แถมยังเสนอเผาเหรียญจากคลัง (Treasury) อีก 100 ล้าน UNI หรือคิดเป็น 16% ของ Supply ที่หมุนเวียนอยู่

แม้แต่ค่า Fee จาก Unichain (L2 ของ Uniswap) ที่ทำเงินได้ปีละ 7.5 ล้านดอลลาร์ ก็จะถูกส่งเข้าเตาเผานี้ด้วย ทำให้ UNI ทะยานไปแตะ $9.70 และมี Market Cap ทะลุ 6 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นแท่นเหรียญอันดับ 34 ของโลก

ที่มา: CoinGecko

บทวิเคราะห์: UNI กำลังเปลี่ยนสถานะจาก Governance Token ไปสู่เหรียญที่มีมูลค่าในตัวเองอย่างชัดเจน การเผาเหรียญและแบ่งค่า Fee คือสิ่งที่ตลาดเรียกร้องมานาน การพุ่งขึ้น 38% คือการตอบรับที่ชัดเจนว่านักลงทุนเอาด้วยกับทิศทางนี้

BitMine สวนกระแส ช้อน ETH เพิ่ม 34% ตอนตลาดย่อ

ท่ามกลางความผันผวน BitMine Immersion Technologies กลับเดินหน้าช้อปไม่หยุด ประกาศซื้อ ETH เพิ่มอีก 110,288 ETH ซึ่งมากกว่าสัปดาห์ก่อนถึง 34% ทำให้ตอนนี้พวกเขากลายเป็นบริษัทที่ถือคลัง ETH ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนรวม 3,505,723 ETH ที่ต้นทุนเฉลี่ย $3,639 

Tom Lee ประธานของ BitMine และผู้ร่วมก่อตั้ง Fundstrat มองว่าราคาย่อคือโอกาสทอง เขาย้ำว่า Wall Street กำลังสนใจการทำ Tokenized Assets บนบล็อกเชนอย่างมาก และนี่คือพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เขาเชื่อว่า Ethereum คือ “Super Cycle Story” ในอีกทศวรรษข้างหน้า โดยเขาเคยคาดการณ์ไว้ว่า ETH อาจแตะ $10,000 ถึง $12,000 ภายในสิ้นปี 2025

ที่มา: BitMine

บทวิเคราะห์: นี่คือการเดิมพันระยะยาวของสถาบัน BitMine ไม่ได้มองราคา ETH รายวัน แต่มองการใช้งานในอนาคต การกล้าช้อนซื้อตอนตลาดย่อหนักๆ คือกลยุทธ์ของคนที่เชื่อมั่นในพื้นฐานของสินทรัพย์อย่างแท้จริง

เทรดเดอร์ดัง James Wynn ล้างพอร์ต 12 ครั้งใน 12 ชม. แต่ยังไม่ยอมแพ้ All-in' Short BTC

ในขณะที่ตลาดกำลังรีบาวด์ ก็มีคนเจ็บหนัก เทรดเดอร์สายเลเวอเรจสูงชื่อดังอย่าง James Wynn ถูกล้างพอร์ต (Liquidated) บัญชีหลักใน Hyperliquid ไปถึง 12 ครั้งภายใน 12 ชั่วโมง จนมูลค่าใน wallet เหลือแค่ $5,422 (ข้อมูลจาก Lookonchain ระบุว่า 2 เดือนมานี้เขาโดนไป 45 ครั้งแล้ว)

แต่แทนที่จะถอย Wynn กลับประกาศทุ่มสุดตัว All-in เปิดสถานะ Short BTC เพิ่ม โดยโอน Stablecoin ทั้งหมดไปเติมใน Position เพราะเขายังคงเดิมพันว่า Bitcoin จะร่วงลงไปต่ำกว่า $92,000

เขาโพสต์ใน X ว่า “งานนี้ผมอาจจะได้เงินหลายร้อยล้านเหรียญ หรือไม่ผมก็จะหมดตัวไปเลย” ข้อมูลจาก Nansen ยังชี้ว่าเทรดเดอร์ Smart Money ส่วนใหญ่บน Hyperliquid ก็กำลังถือสถานะ Net Short อยู่เช่นกัน

ที่มา: James Wynn

บทวิเคราะห์: การเดิมพันของ James Wynn คือการวัดใจขั้นสุด เขากำลังสวนข่าวดีระยะสั้น แต่เดิมพันว่าเทรนด์ใหญ่ยังเป็นขาลง การที่ Smart Money รายอื่นก็ Short ด้วย แสดงว่าตลาดกำลังแตกเป็นสองเสียงอย่างรุนแรงระหว่างแรงซื้อจากข่าวดี กับความเชื่อว่าราคายังไปต่อไม่ไหว

ดัชนี Fear and Greed Index: 26

ที่มา https://alternative.me/crypto/