ข่าวคริปโต|ข่าวคริปโตวันนี้|สรุปข่าวคริปโตประจำวัน: ทรัมป์สั่งลุยเข็นกฎหมายคริปโต ด้านบริษัทมหาชนเทหมดหน้าตักไล่ช้อน Bitcoin

ไฮไลท์ของข่าวคริปโตวันนี้

• ทรัมป์สั่งลั่น! “กฎหมาย Stablecoin ต้องถึงโต๊ะ..เดี๋ยวนี้!”

• ยักษ์ใหญ่จีนทนพิษบาดแผลไม่ไหว ย้ายฐานผลิตเครื่องขุดบุกแดนเมกา

• แยกวงเพื่อโต! ทีมหัวกะทิ Polygon zkEVM ผงาดตั้งบริษัทใหม่ “ZisK”

• 4 บริษัทมหาชนเมกัน ประกาศทุ่มงบเฉียดพันล้านดอลล่าร์ไล่ช้อน Bitcoin-HYPE

ทรัมป์สั่งลั่น! “กฎหมาย Stablecoin ต้องถึงโต๊ะ..เดี๋ยวนี้!”

ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศกร้าวผ่านโซเชียล สั่งสภาล่างให้รีบผ่านร่างกฎหมาย GENIUS Act หรือกฎหมายกำกับดูแล Stablecoin แบบด่วนจี๋ติดจรวด บอกเลยว่า “ไม่ต้องมีลูกเล่น ไม่ต้องมีอะไรเสริม ส่งมาให้ตูเซ็นเดี๋ยวนี้!”

หลังจากที่วุฒิสภาเพิ่งโหวตผ่านฉลุยไปด้วยคะแนน 68-30 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา งานนี้เหลือแค่ด่านสภาล่างที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากอยู่หน่อยๆ เท่านั้น บรรดาผู้สนับสนุนกฎหมายนี้เชื่อว่ามันจะเป็นหมัดเด็ดที่ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งในโลกการเงินดิจิทัลต่อไป

อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้จะเข้ามาสร้างกติกาที่ชัดเจนสำหรับผู้ออกเหรียญ Stablecoin ทั้งการต้องมีเงินสำรองค้ำประกันแบบ 1:1, การตรวจสอบการฟอกเงิน และการคุ้มครองผู้ใช้งานเต็มรูปแบบ

 ที่มา: Donald Trump

บทวิเคราะห์: การออกกฎหมายที่ชัดเจนคือการปูพรมแดงเชิญชวนให้สถาบันการเงินและบริษัทใหญ่ๆ กระโดดเข้ามาเล่นในสนามนี้อย่างเต็มตัว เป็นการประกาศสงครามกลายๆ ว่าอเมริกาพร้อมที่จะเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัล และจะใช้พลังของดอลลาร์เป็นอาวุธสำคัญในการรบครั้งนี้

ยักษ์ใหญ่จีนทนพิษบาดแผลไม่ไหว ย้ายฐานผลิตเครื่องขุดบุกแดนเมกา

เมื่อโดนกำแพงภาษี 25% ที่ Trump สั่งตั้งไว้เล่นงานจนจุก 3 ยักษ์ใหญ่จากจีนผู้ครองตลาดเครื่องขุด Bitcoin (ASIC) เกือบ 100% ของโลกอย่าง Bitmain, Canaan และ MicroBT ก็ต้องยอมศิโรราบ ประกาศย้ายฐานการผลิตบางส่วนมาตั้งโรงงานในสหรัฐอเมริกาซะเลย

จากที่เคยผลิตในจีนแล้วส่งออกมาขาย กลายเป็นว่าต้องหอบเสื่อผืนหมอนใบมาตั้งรกรากเพื่อหนีตายจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจ บอกเลยว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ของวงการขุด เพราะก่อนหน้านี้กูรูเคยวิเคราะห์ว่าภาษีของทรัมป์จะทำให้ความต้องการเครื่องขุดในเมกาพังพินาศ แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าพี่จีนเลือกที่จะบุกเข้ามาตั้งโรงงานในบ้านศัตรูแทนซะงั้น

 ที่มา: Cambridge Digital Mining Industry Report

บทวิเคราะห์: เกมนี้เมกาเหมือนจะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งบีบให้คู่แข่งต้องย้ายฐานการผลิตเข้ามาสร้างงานในประเทศ และยังได้ควบคุมซัพพลายเชนของเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในโลกคริปโตอย่างเครื่องขุดอีกด้วย นี่คือสงครามภูมิรัฐศาสตร์ที่ใช้เศรษฐกิจและเทคโนโลยีเป็นอาวุธ สะท้อนให้เห็นว่า Bitcoin ไม่ใช่แค่เรื่องเงินๆ ทองๆ อีกต่อไป แต่มันคือสมรภูมิแห่งอำนาจที่แท้ทรู

แยกวงเพื่อโต! ทีมหัวกะทิ Polygon zkEVM ผงาดตั้งบริษัทใหม่ “ZisK”

Jordi Baylina หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Polygon และทีมงานระดับมันสมองที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยี Polygon zkEVM ได้ประกาศแยกตัวออกมาตั้งบริษัทใหม่อย่างเป็นทางการในชื่อ ZisK เพื่อลุยพัฒนาเทคโนโลยี Zero-Knowledge (ZK) แบบเต็มสูบ โดย Baylina จะเปลี่ยนไปโฟกัสที่ ZisK เป็นหลัก แต่ยังคงนั่งเป็นที่ปรึกษาให้กับ Polygon อยู่เหมือนเดิม

ทีมงานที่ย้ายตามมาด้วยอีก 7 คนล้วนเป็นตัวจี๊ดที่ทำงานร่วมกันมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ZisK ประกาศตัวเป็นโปรเจกต์ Open-Source เต็มรูปแบบที่ถูกออกแบบมาให้รองรับภาษาโปรแกรมได้หลากหลาย เพื่อเป้าหมายในการเร่งให้เกิดการยอมรับเทคโนโลยีกระจายศูนย์ในวงกว้าง

 ที่มา: Jordi Baylina

บทวิเคราะห์: การแตกตัวครั้งนี้ไม่ใช่ดราม่าการเมืองในบริษัท แต่เป็นวิวัฒนาการที่แสดงให้เห็นว่าวงการนี้เติบโตขึ้นมาก การแยกตัวออกมาตั้งบริษัทที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีที่ซับซ้อนอย่าง ZK คล่องตัวและรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นการส่งสัญญาณว่าอนาคตของการสเกลบล็อกเชนอยู่ที่เทคโนโลยี ZK และทีม ZisK ก็พร้อมที่จะเป็นผู้นำในด้านนี้

4 บริษัทมหาชนเมกัน ประกาศทุ่มงบเฉียดพันล้านดอลล่าร์ไล่ช้อน Bitcoin-HYPE

บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ อย่างน้อย 4 แห่ง ประกาศลั่นว่าจะเทเงินรวมกันกว่า 844 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล โดยตัวพ่อของงานนี้คือ DDC Enterprise Ltd ที่ประกาศทุ่มเงินกว่า 528 ล้านดอลลาร์เพื่อเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่ม ตามมาด้วยบริษัทบริการทางการเงินคริปโต Fold Holdings Inc ที่จัดไปอีก 250 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ Bitcoin เช่นกัน

ยังไม่หมด! บริษัทให้เช่าเครื่องขุด BitMine Immersion Technologies ก็เพิ่งช้อน Bitcoin ไปอีก 16.3 ล้านดอลลาร์ แต่ที่พีคสุดคือ Eyenovia บริษัทเทคโนโลยีตรวจสายตาที่ประกาศทุ่ม 50 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อโทเคน HYPE ของกระดานเทรดอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ Hyperliquid พร้อมทั้งรีแบรนด์บริษัทตัวเองเป็น “Hyperion DeFi” ไปเลย บอกเลยว่างานนี้เอาจริงเอาจังกันสุดๆ

 ที่มา: Fold

บทวิเคราะห์: สัญญาณชัดว่า Bitcoin และคริปโตกำลังกลายเป็นสินทรัพย์กระแสหลักในพอร์ตของบริษัทมหาชน การที่บริษัทจดทะเบียนกล้าประกาศทุ่มเงินมหาศาลขนาดนี้คือการส่งสารที่ดังกว่าระเบิดไปถึงนักลงทุนทั่วโลกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ใช่ของเล่นอีกต่อไป แต่เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนแห่งอนาคตที่น่าเชื่อถือ

ดัชนี Fear and Greed Index: 57

Source: https://alternative.me/crypto/