น้ำมันดิบ WTI ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ วิ่งอยู่ต่ำกว่า $80 เพราะน้ำมันดิบคงคลังเซอร์ไพรส์เพิ่มขึ้น
- ในวันพฤหัสบดี ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงมาใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์ที่ 79.20 ดอลลาร์
- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
- ราคา WTI ปรับตัวลดลงท่ามกลางสัญญาณความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่ลดลง
- รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
ในวันพฤหัสบดี ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) เกณฑ์มาตรฐานน้ํามันดิบของสหรัฐฯ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 79.20 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่ลดลง
ตามรายงานของสํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เมื่อวันพุธ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สําหรับสัปดาห์ที่นับถึงวันที่ 26 เมษายน เพิ่มขึ้น 7.256 ล้านบาร์เรลเป็น 460.9 ล้านบาร์เรล เทียบกับ 6.368 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า นักลงทุนในตลาดประเมินตรงกันว่าน้ำมันดิบคงคลังจะลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล ตัวเลขนี้สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่อ่อนแอลง
นอกจากนี้ สัญญาณความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่ลดลงยังฉุดราคาน้ำมันดิบ WTI ให้ลดลง จากข้อมูลของ Bloomberg สหรัฐอเมริกาและซาอุดีอาระเบียกําลังหารือเกี่ยวกับข้อตกลงที่จะให้การรับประกันความมั่นคงให้กับริยาด และโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลหากรัฐบาลยุติสงครามในฉนวนกาซา อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นอาจเพิ่มความกลัวว่าอุปทานน้ํามันในภูมิภาคจะหยุดชะงัก และทําให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น
นักลงทุนน้ำมันจะเปลี่ยนความสนใจไปที่ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในเดือนเมษายนในวันศุกร์เพื่อหาแรงผลักดันการลงทันใหม่ ข้อมูลดังกล่าวจะมีการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) อัตราการว่างงาน และรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง เหตุการณ์เหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อราคาน้ำมัน WTI ที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนน้ำมันจะใช้สัญญาณการลงทุนจากข้อมูลเหล่านี้ และหาโอกาสในการซื้อขายราคาน้ำมันดิบ WTI
บทความที่เกี่ยวข้อง
