WTI ปรับตัวลดลงมาวิ่งใกล้ $83.50 ท่ามกลางภาพรวมความต้องการที่อ่อนแอลงจากตัวเลข GDP สหรัฐฯ
- ราคา WTI ปรับตัวลดลงเพราะแนวโน้มอุปสงค์ที่อ่อนแอลงหลังจากข้อมูล GDP ของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี
- เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่าการเติบโตของ GDP สหรัฐในไตรมาสที่ 1 อาจถูกปรับให้สูงขึ้นเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติม
- อิสราเอลเพิ่มการโจมตีทางอากาศใส่ราฟาห์ โดยไม่สนใจคําเตือนจากพันธมิตรเกี่ยวกับความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนจํานวนมาก
ในตลาดลงทุนยุโรปวันศุกร์ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซื้อขายแลกเปลี่ยนใกล้ 83.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 0.10% ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศรายปี (Q1) ของสหรัฐฯ ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง 1.6% เมื่อเทียบกับการประกาศก่อนหน้านี้ที่ 3.4% ตัวเลขนี้ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.5% การชะลอตัวนี้ชี้ให้เห็นถึงอุปสรรคหรือการชะลอตัวที่อาจเกิดขึ้นในบางภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้ความต้องการน้ำมันลดลงเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจเคลื่อนไหวอยู่ในทรงตัว
ในทางตรงกันข้าม ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (QoQ) สําหรับไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้นในอัตรา 3.7% ต่อปี เกินความคาดหมายของตลาดที่ 3.4% และการประกาศก่อนหน้านี้ที่ 2.0%
ราคาน้ำมัน WTI ได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เยลเลนระบุในการให้สัมภาษณ์กับสํานักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีว่าการเติบโตของ GDP สหรัฐในไตรมาสแรกอาจมีการปรับตัวเลขให้สูงขึ้นเมื่อมีข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม นอกจากนี้ เยลเลนยังคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับปกติมากขึ้นหลังจากเกิดปัจจัยที่ "แปลกประหลาด" บางอย่างขัดขวางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงด้านอุปทานที่อาจเกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่มีความเป็นไปได้ที่อิสราเอลจะบุกเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา
ตามรายงานของรอยเตอร์ สถานการณ์ล่าสุดบ่งชี้ถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคตะวันออกกลาง อิสราเอลเพิ่มการโจมตีทางอากาศใส่ราฟาห์หลังจากการประกาศอพยพพลเรือนออกจากเมืองกาซานทางตอนใต้ และดําเนินการโจมตีทั้งหมดแม้จะมีคําเตือนจากพันธมิตรเกี่ยวกับโอกาสที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจํานวนมาก
บทความที่เกี่ยวข้อง
