NZDUSD ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ออกมาเป็นไปตามที่ส่วนใหญ่คาดการณ์ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง พวกเขาคงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในกรอบ 5.25-5.50% ท่าทีที่ระมัดระวัง และการตัเสินใจโดยจะพึ่งพาข้อมูลเศรษฐกิจของเจอโรม พาวเวลล์ ถูกมองว่าเป็น dovish ทําให้นักลงทุนเทขายเงิน USD
นอกจากนี้ พาวเวลล์ระบุว่าธนาคารยังคงต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อสร้างความมั่นใจในการเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย เขากล่าวว่าความคืบหน้าของการลดเงินเฟ้อหยุดนิ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวลล์ยืนยันว่าหากข้อมูลยังออกมาแข็งแกร่ง ก็ควรเข้มงวดนโยบายการเงินต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง เมื่อข้อมูลเริ่มสอดคล้องกับการคาดการณ์ของธนาคารฯ เขาชี้ให้เห็นว่าเนั่นน่าจะเป็นช่วงที่สามารถพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยได้
ตลาดกําลังเลิกหวังที่จะเห็นเฟดปรับลดในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม และเปลี่ยนไปเชื่อว่าเฟดจะเริ่มต้นลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนหรือพฤศจิกายนแทน
ในกราฟรายวัน อินดิเคเตอร์ RSI ยืนอยู่ในแดนลบ ค่าล่าสุดระบุว่าเพิ่มขึ้นเป็น 44 เพิ่มความหวังให้กับตลาดกระทิงแม้ว่าจะยังคงวิ่งอยู่ใต้เส้นสัญญาณ นอกจากนี้ ฮิสโตแกรมของอินดิเคเตอร์ Moving Average Convergence Divergence (MACD) ยังมีแถบสีเขียวแบน หมายความว่ามีโมเมนตัมเชิงบวกเล็กน้อย
เมื่อเปลี่ยนไปดูกราฟรายชั่วโมง RSI มีค่าที่หลากหลาย อินดิเคเตอร์อยู่ในโซนซื้อมากเกินไปที่ 70 ตามด้วยการลดลงเหลือ 55 ในขณะเดียวกัน กราฟ MACD รายชั่วโมงมีแท่งฮีสโตแกรมสีเขียวแบน คล้ายกับการกราฟรายวัน หมายความว่าในระยะสั้นสามารถคาดหวังให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นได้
ในการประเมินภาพรวมที่กว้างขึ้น NZDUSD อยู่ภายใต้แรงกดดันที่ขาลงอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันราคาวิ่งอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) 20, 100 และ 200 วัน
โดยรวมแล้ว NZDUSD แสดงภาพการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย แม้จะมีสัญญาณซื้อมากเกินไปในกราฟรายชั่วโมง ที่ส่งสัญญาณว่าราคาอาจปรับตัวลดลงในอนาคต แต่เส้น SMA ที่สําคัญ ประกอบกับค่า RSI ในกราฟรายวันก็เอนเอียงไปทางฝั่งขาลง ทําให้คู่ NZDUSD ปรับตัวลดลง สภาวะปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าฝั่งผู้ขายอาจยังคงครองเกมต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทั้งคู่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้น SMA ที่สําคัญ แต่หากฝั่งผู้ซื้อสามารถยืนเหนือเส้น SMA 20 วันที่ 0.5950 ก็อาจทําให้แนวโน้มขาขึ้นมีความสดใสขึ้น