ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทโมเน็กซ์ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป เตือนว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นผู้จัดหาหลักของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ภาษีดังกล่าวเป็นการเพิ่มจากระดับเดิมที่ 2.5% เพื่อกระตุ้นการผลิตภายในประเทศ ดึงดูดการลงทุน และลดหนี้สาธารณะ
ข้อมูลจากสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เหล็กที่นำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดามีอัตราส่วนถึง 40% ของการนำเข้าเหล็กสหรัฐฯ และทั้งสองประเทศยังเป็นผู้จัดหารถยนต์จำนวน 29% ของการนำเข้าทั้งหมดอีกด้วย สำหรับเม็กซิโก ภาษีศุลกากรนี้อาจกระทบมูลค่าการส่งออก 4.7% และ GDP อาจลดลงถึง 1.5%
มาตรการภาษีศุลกากรรถยนต์นี้ยังอาจทำให้ต้นทุนเฉลี่ยของรถในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 3,000 ดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในปี 2568 มีแนวโน้มลดลง บรรดานักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าราคาที่สูงขึ้นจะสร้างภาระให้ผู้บริโภคที่เผชิญกับต้นทุนการใช้ชีวิตที่สูงอยู่แล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อว่ามาตรการนี้จะกระตุ้นบริษัทรถยนต์ให้ย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐฯ สร้างรายได้ใหม่ และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศ.