ตามหลักการณ์แล้วราคาในตลาดจะผันผวนตามข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏขึ้น อย่างไรก็ตามทฤษฏีนี้ไม่สามารถใช้ได้กับนักลงทุนทุกท่าน เนื่องจากตลาดไม่สามารถสะท้อนตามข่าวสารโดยตรงได้ทั้งหมด นอกจากนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำการเทรดไปในทิศทางเดียวกันตามข่าวสาร ด้วยปัจจัยนี้ส่งผลให้การใช้ปรากฏการณ์เชิงบวกเป็นอีกวิธีหนึ่งในการคาดการณ์ว่าตลาดจะเป็นแบบขาขึ้น หรือขาลงผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเทรด การซื้อ หรือขายโดยโบรกเกอร์หรือกลุ่มบุคคลที่สาม

นอกเหนือจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคแล้ว การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานนั้นมีความสำคัญต่อแนวโน้มของอัตราแลกเปลี่ยน และช่วยให้ท่านสามารถค้นพบโอกาสทางการเทรดอีกมากมาย

เช่น หากท่านต้องการเทรดคู่เงิน USD/JPY ท่านควรติดตามข่าวสารและข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นล่วงหน้าอย่างน้อยสองสัปดาห์เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ก่อนทำการเทรด ท่านสามารถใช้ปฏิทินทางเศรษฐกิจเพื่อเลือกอ่านข่าวที่สำคัญ และเกี่ยวข้องกับคู่เงินที่ท่านต้องการเทรดด้วยตัวท่านเอง

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานดูที่ปัจจัยผลักดันของความผันผวนของตลาดด้วยการวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจมหภาคของประเทศเพื่อทำนายแนวโน้มพื้นฐานและการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่งกำลังเข้มแข็ง อัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินจะเพิ่มขึ้นและเมื่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินก็จะลดลงด้วย

 

เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินการค้าและการตั้งถิ่นฐานของโลก เงินดอลลาร์สหรัฐจึงมีอำนาจเหนือกว่าและได้เปรียบอย่างแน่นอนในตลาดฟอเร็กซ์ ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเป็นกำลังสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดฟอเร็กซ์ ข้อมูลทางเศรษฐกิจของมันจึ่งได้กลายเป็นจุดที่หน่าสนใจสำหรับนักลงทุนแลกฟอเร็กซ์เป็นส่วนใหญ่

 

   จากการวิเคราะห์ทางสถิติ ผลกระทบของสถิติทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันที่ส่งต่อตลาด เรียงลำดับตั้งแต่แข็งแรงถึงอ่อนแอคือ: การแก้ไขอัตราดอกเบี้ย ข้อมูลการว่างงาน GDP การผลิตภาคอุตสาหกรรม การค้าต่างประเทศ เงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค  ดัชนีราคาขายส่ง ดัชนีราคาขายปลีก ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจ ข้อมูลการก่อสร้าง คำสั่งซื้อโรงงาน รายได้ส่วนบุคคล ยอดขายรถยนต์ ค่าจ้างเฉลี่ย สินค้าคงคลังเชิงพาณิชย์ ดัชนีชั้นนำ ฯลฯ

 

     แน่นอนภายใต้สภาวะตลาดที่แตกต่างกัน ผลกระทบของสถิติก็จะเปลี่ยนไปด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อสถิติทางเศรษฐกิจหนึ่งมีขนาดใหญ่กว่าที่คาดไว้ ผลกระทบต่อตลาดจะได้รับการขยาย ตัวอย่างเช่น ก่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน สถิติการจ้างงาน เงินเฟ้อและข้อมูลอื่น  จะมีความสนใจมากขึ้น ตัวอย่างเช่น สำหรับเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ การกล่าวสุนทรพจน์และสุนทรพจน์ของนักการเมืองในช่วงเวลานั้น  จะส่งผลกระทบต่อตลาดเป็นอย่างมาก

 

     ในการทำธุรกรรมจริง นักลงทุนไม่ต้องการและไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดได้ทีละตัว แต่ต้องเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของจุดโฟกัสของตลาดในเวลานั้นและการตอบสนองของตลาดต่อจุดโฟกัส แน่นอนว่าสำหรับนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ การคาดการณ์และการตัดสินใจจะต้องทำก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวชี้วัดและข้อมูล และกลยุทธ์การค้าใดที่ควรนำมาใช้ก่อนและหลังการเปิดเผยข้อมูล

การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานจะส่งผลต่อคู่สกุลเงิน จากการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนั้นเหมือนว่าจะส่งผลกระทบต่อความแข่งแรงของสกุลเงินของประเทศมากที่สุด และนักลงทุนสามารถเทรดได้ตามความคาดการณ์นั้น

ถ้าหากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของประเทศเกินกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง ธนาคารกลางจะออกนโยบายที่ส่งผลต่อค่าเงินในประเทศนั้นตามอัตราเงินเฟ้อโดยทำการเพิ่มหรือลดอัตราดอกเบี้ย

โดยทั่วไปแล้ว ธนาคารกลางจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดจำนวนเงินในระบบและเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ถ้าเกิดว่าธนาคารกลางต้องการจะเพิ่มเงินในระบบ ธนาคารอาจจะทำโดยการลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยปกติแล้ว ถ้าความแต่งต่างระหว่างสกุลเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง กับสกุลเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำนั้นมีมากขึ้น เงินก็จะไหลไปสู่ตลาดของสกุลเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้อุปสงค์ของเงินมากขึ้น และนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักในการที่มูลค่าของอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มสูงขึ้นในระยะกลาง และระยะยาว และนักลงทุนสามารถคว้าโอกาสนี้เพื่อลงทุนได้

มีข้อได้เปรียบจากการเทรดโดยอิงจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงในคู่สกุลเงิน สภาพเศรษฐกิจโดยรวม รายได้ของบริษัท สิ่งเหล่านี้คือปัจจัยหลักในการวิเคราะห์ในการลงทุนระยะกลางและระยะยาวสำหรับสกุลเงินและดัชนีหุ้น

เมื่อท่านมีความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโดยรอบเป็นอย่างดีแล้ว (หรือหุ้น/ บริษัท) ท่านอาจจะเลือกที่จะถือสกุลเงินหรือหุ้นในระยะยาวโดยที่ไม่ต้องตามติดทุกวัน ทุกเวลา ท่านอาจจะรอจนกระทั่งสกุลเงินหรือดัชนีหุ้นกลับตัวหรือพุ่งเพิ้อ Long หรือ Short

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานนั้นเกิดจากการววิเคราะห์ปัจจัยทาง เศรษฐกิจ สังคมและการเมืองที่ส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานของตลาด. นักลงทุนที่เชื่อมั่นในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานนั้น ต้องหาปัจจัยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจให้เจอ อย่างเช่น สิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจเติมโตอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว

 

การวิเคราะห์แบบนี้นั้นจะขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่ว่า สกุลเงินของประเทศจะแข็งเมื่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมนั้นดี. เหตุผลก็คือสภาพเศรษฐกิจที่ดี ทำให้บริษัทต่างชาตินั้นอยากจะมาลงทุนในประเทศ. เพราะว่าบริษัทเหล่านั้นต้องการเงินของประเทศนั้นเพื่อครอบครองทรัพสินย์ในประเทศ 

 

ยกตัวอย่างเช่น เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกานั้นปรับตัวดีขึ้น. เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาก้าวหน้าขึ้น จึงทำให้ผู้ออกนโยบายควบคุมการเติบโตที่มากเกินไปของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ เลยจำเป็นต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น ยิ่งอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสินทรัพย์ที่ใช้เงินดอลลาร์นั้นก็จะน่าซื้อมากขึ้น และเงินจำนวนมากก็จะมุ่งเป้าไปที่อัตราดอกเบี้ยที่สูง และเงินก็จะไหลเข้าสู่ประเทศ ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐนั้นมีค่ามากขึ้น

ไม่พบคำตอบที่ท่านต้องการ ? ติดต่อเรา

*วิธีการฝากเงินบางวิธีอาจไม่มีให้บริการในประเทศ / ภูมิภาคของคุณ

เริ่มเทรดวันนี้